วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ทองโกโบริฉบับนาซี l วิชัย สุวรรณบรรณ


เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวที่ฮือฮามากในโปแลนด์ ถือเป็นข่าวใหญ่ของยุโรปที่บดบังข่าวดัง ๆ ระดับปัญหาหนี้กรีซได้อย่างสบาย

ข่าวที่ว่านี้คือ มีคนบอกว่าได้ค้นพบที่ซ่อน โบกี้รถไฟสมัยนาซี ที่บรรทุกทอง เพชรนิลจินดา อาวุธและของมีค่าต่าง ๆ ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในโปแลนด์ เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมากเพราะเป็นเรื่องที่ล่ำลือกันมานานแต่ไม่มีใครบอกได้ว่าขบวนรถไฟทองนาซี นี้ซ่อนอยู่ที่ใด

เป็นเรื่องแบบเดียวกับ ‘ทองโกโบริ’ ที่มีการเล่าลือกันมานานว่า ก่อนจะสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ใส่ทองคำและของมีค่าไว้ในโบกี้รถไฟและเอาไปซ่อนในถ้ำแถวกาญจนบุรี บ้างก็ว่าอยู่ฝั่งเมียนมา มีการหากันหลายรอบแล้วแต่ไม่เจอ

ทองโกโบริเคยเป็นข่าวฮือฮาสมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรยุคต้น ๆ เมื่อ ร.ต.ท. เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างว่ามีแหล่งข่าวเชื่อถือได้ว่าโบกี้ทองทหารญี่ปุ่น อยู่ในถ้ำลิเจีย จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต มีการขุดค้นแต่ไม่พบอะไร

เรื่องรถไฟทองนาซี ที่กลับมาตื่นเต้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีกระทาชาย 2 คน เป็นชาวโปแลนด์ 1 คนและชาวเยอรมนี 1 คน บอกทางการเมือง วาลบ์จก (Walbrzch) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโปแลนด์ ผ่านทนายส่วนตัว ว่า รู้ที่ซ่อนของรถไฟทองนาซี แต่จะไม่บอกที่ตั้งจนกว่าทางการเมืองจะตกลงมอบส่วนแบ่ง 10 % จากมูลค่าสมบัติที่ค้นพบให้กับพวกเขาทั้ง 2 คน

ข่าว ๆ นี้ทำให้เกิดการตื่นทองขึ้นมาทันที เพราะมีข่าวและคำเล่าลือในอดีต ว่ารถไฟหุ้มเกราะขบวนหนึ่งของนาซี ได้หายไปในปี 2488 ขณะที่ทหารนาซี หนีการรุกไล่ของกองทัพแดงของรัสเซียและเชื่อกันว่ารถไฟขบวนนั้นขนสมบัติและของมีค่ามากมายไปด้วย

กองทัพนักล่าทองทั้งชาวโปลเองและเยอรมัน พร้อมอุปกรณ์ตรวจหาโลหะ บุกเมือง วาลบ์จก ทันทีหลังจากที่นาย Piotr Zuchowski รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของโปแลนด์กล่าวว่ามีการนำเครื่องตรวจชั้นใต้ดินพบโครงสร้างรูปร่างคล้ายขบวนรถไฟ ใต้เนินเขาใกล้เส้นทางอุโมงค์รถไฟซึ่งปัจจุบันยังใช้งานอยู่

พวกตื่นทองซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน และชาวเมืองอื่นพากันเดินดุ่ม ๆ ตามเส้นทางรถไฟเก่าเพื่อหาทองทำให้ทางการเมืองวาลบ์จก ต้องส่งกำลังรักษาความปลอดภัยไปคุมปากทางเข้าอุโมงค์ และลาดตะเวนตามเส้นทางรถไฟเก่าและพื้นที่บริเวณรอบ ๆ เนินที่ล่ำลือกันว่าเป็นที่ซ่อนโบกี้ทอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนนักหาทองเนื่องจากบริเวณนั้นยังมีรถไฟวิ่งอยู่

โฆษกตำรวจของเมืองวาลบ์จก ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่ามีนักหาทองคนหนึ่งเกือบโดนรถไฟชน ขณะที่ไปถ่ายรูปเซลฟี่ หน้าอุโมงค์รถไฟ ตำรวจจึงต้องกันทุกคนออกจากพื้นที่อันตราย

หลังจากที่มีคนแห่เข้ามาพื้นที่มากขึ้น นาย Tomasz Smolarz ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องออกมาแถลงข่าวว่าได้ตั้งทีมซึ่งมีทั้งนักประวัติศาสตร์ นักธรณีวิทยาขึ้นมาตรวจสอบเอกสารและสำรวจตามคำกล่าวอ้าง พร้อมกับแสดงความไม่เชื่อว่าจะมีการค้นพบจริง โดยกล่าวว่า ข้อมูลใหม่ ไม่ได้แตกต่างจากข้อมูลเก่า ๆ ที่เคยได้มาแล้ว และมักตรวจเจอแต่เศษเหล็กเก่า ๆ เท่านั้น

หลังจากผู้ว่าราชการ Tomasz ให้สัมภาษณ์ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ปรากฏว่าเกิดไฟใหม้ปริศนาขึ้นที่บริเวณรางเก่าที่พาดผ่านพื้นที่ป่าซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อว่าขบวนรถไฟทองแล่นผ่าน ทำให้รถดับเพลิงต้องเร่งไปดับไฟ โดยไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

ขณะที่เขียนบล็อกอยู่นี้ มีรายงานจากสื่อในยุโรปว่า นักหาทองยังคงวนเวียนอยู่ในเมือง วาลบ์จก เพราะมีการวิจารณ์ว่า สาเหตุที่ผู้ว่าราชการ Tomasz ออกมาแจงว่า ข้อมูลการค้นพบรถไฟทองนาซี ไม่น่าเชื่อถือ เพราะก่อนหน้านี้ ทางรัสเซีย ออกมาประกาศว่ารถไฟและสิ่งที่อยูในรถไฟต้องเป็นสมบัติของรัสเซีย

ไม่มีความคิดเห็น: