วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562

ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จ Inspired from Our Iceberg REALLY is melting

ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จ Inspired from Our Iceberg REALLY is melting

Ascend Editor

Nov 16, 2016

By Pipe Wichayapongkul (Warot Jantaranate) — Product Owner, Ascend Commerce

สวัสดีครับวันนี้อยากจะมาเล่าเรื่อง “ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จ” โดย inspired จากหนังสือ “Our Iceberg Is Melting” ของจอห์น คอทเตอร์

“Our Iceberg Is Melting” เป็นเรื่องราวของฝูงนกเพนกวินที่อาศัยอยู่บริเวณขั้วโลกใ พวกมันกำลังเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตที่ถูกซ่อนเร้น เมื่อเพนกวินหนุ่มช่างสังเกต เห็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่า ภูเขาน้ำแข็งซึ่งเป็นบ้านของพวกเขากำลังละลาย ขณะกำลังเข้าฤดูหนาว ที่จะส่งผลให้รอยร้าวในภูเขาน้ำแข็งขยายตัว พร้อมกับน้ำในโพรงถ้ำแข็งตัวจนระเบิด ทำให้ภูเขาน้ำแข็งแตก ระยะแรกเพนกวินในฝูง ไม่เชื่อและพากันหัวเราะเยาะ และขัดขวางการเผยแพร่สัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้น แต่เพนกวินหนุ่มผู้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา ได้อาศัยความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์มาผลักดันให้เพนกวินผู้มีอำนาจ จัดตั้งกลุ่มผู้นำทางความคิด ที่ประกอบด้วยเพนกวินนักวิชาการที่มีความรอบรู้ และเพนกวินที่มีทักษะแตกต่าง สามามารถชี้นำความคิด วิเคราะห์วิธีการแก้ไขปัญหา และสื่อสารกับสมาชิกเพนกวินในอาณาจักร จนได้รับการยอมรับว่าภูเขาน้ำแข็งที่เป็นบ้านของพวกเขากำลังละลาย ที่สำคัญคือพวกเขาได้แรงบันดาลใจจากนกที่ต้องย้ายถิ่นตามฤดูกาล และนำความรู้ที่ได้จากนกนางนวลมาปรับใช้ และได้รับความร่วมมือจากเพนกวินส่วนใหญ่ทุกเพศทุกวัย ในการคิดค้นวิธีแก้ไขปัญหา จนสามารถค้นพบวิถีชีวิตใหม่ที่ตอบสนองการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของตนเองอย่างยั่งยืน และสืบทอดวัฒนธรรมใหม่ในการดำรงชีวิตไปยังประชากรเพนกวินได้ต่อไป

มาดูขั้นตอนที่คอทเตอร์ได้แฝงไว้ในการที่จะฝ่าฟัน “Change” ได้ประกอบด้วย 8 หลักการที่สำคัญคือ

Set-Up Stage:

1. ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นและเร่งด่วน (Create Urgency) : ช่วยให้ผู้คนรอบตัวเห็นความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลง และความสำคัญที่จะต้องลงมือทำทันที ในหนังสือกล่าวว่าเมื่อเพกวินหนุ่ทเฟร็ดสังเกตเห็นรอยร้าวของภูเขาน้ำแข็ง เขาตามหาและอธิบายให้เพจกวินอลิซ ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากลุ่มผู้นำที่มีเหตุผลและชอบทำมากกว่าพูดเข้าใจ ทำให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา

2. สร้างทีมนำการเปลี่ยนแปลง (Form a Powerful Coalition) : ประกอบด้วยผู้นำที่มีทักษะในการนำ มีความน่าเชื่อถือ มีความสามารถในการสื่อสาร มีอำนาจตัดสินใจ มีทักษะในการวิเคราะห์ และเห็นความจำเป็นเร่งด่วน (Sense of Urgency) ในเรื่องเพนกวินอลิซจูงใจให้หลุยส์หัวหน้ากลุ่มผู้นำเพนกวินคล้อยตาม และใช้อำนาจจัดตั้งทีมที่มีความรู้ ทักษะ และความสามารถที่หลากหลายเพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลง เฟร็ดได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ชี้นำ เขาทำโมเดลภูเขาน้ำแข็งที่มีรอยร้าว และทำการทดลองที่ชี้ให้เห็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของน้ำที่แข็งตัวตามรอยร้าวในภูเขาน้ำแข็งในฤดูหนาว เป็นผลให้เพนกวินส่วนใหญ่ยอมรับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่รุนแรง

3. สร้างวิสัยทัศน์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง (Create Vision for Change) : ชี้ให้เห็นถึงว่าอนาคตจะแตกต่างจากอดีตอย่างไร? และคุณสามารถทำให้อนาคตนั้นเป็นจริงได้อย่างไร? “ทีมนำ” จากข้อ 2. จะสร้างความคิดร่วมกันกำหนดภาพอนาคต อธิบายให้เกิดวิสัยทัศน์ว่าเพนกวินไม่ควรยึดติดอยู่กับภูเขาน้ำแข็งก้อนเดียว พวกเขาสามารถโยกย้ายถิ่นฐานไปยังภูเขาน้ำแข็งก้อนใหม่ที่มีความมั่นคง ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ และใกล้แหล่งอาหารที่สมบูรณ์ได้ตลอดเวลา

Make it Happen:

4. สื่อสารเพื่อการยอมรับอย่างเข้าใจ (Communicate the Vision) : ทำให้ทีมงานและขยายไปในวงกว้างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เข้าใจและยอมรับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ ถ้ากลุ่มผู้นำมีความคิดที่แตกต่าง การแก้ไขปัญหาจะเกิดขึ้นได้ยาก กลุ่มผู้ชี้นำส่งเสริมให้บัดดี้ เพนกวินวัยเยาว์ที่มีทักษะในการพูดจูงใจ นำความคิดในการโยกย้ายถิ่นฐานไปเผยแพร่แก่กลุ่มนกต่างวัย โดยเฉพาะเพนกวินที่เป็นครู ซึ่งเมื่อได้รับการยอมรับ วิสัยทัศน์นั้นจะถูกส่งต่อไปยังนักเรียนและผู้ปกครองที่ต่อมามีบทบาทสำคัญในการขยายผลความคิดใหม่

5. ทำให้คนอื่นรู้สึกมีพลังที่จะทำ (Empower Action) : ขจัดอุปสรรคให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสร้างบริบททำให้คนที่ต้องการทำวิสัยทัศน์เป็นความจริงสามารถทำได้ ในเรื่องนี้เฟร็ด อลิซ และสมาชิกกลุ่มผู้ชี้นำ ได้มอบหมายหน้าที่ที่แตกต่าง ให้แก่เพนกวินที่มีความถนัดหรือสนใจงานด้านนั้นๆ ซึ่งส่งผลให้การเผยแพร่ความคิดเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานเป็นที่ยอมรับ เช่น มีการจัดตั้งอาสาสมัครเพนกวินเพื่อออกไปแสวงหาภูเขาน้ำแข็งที่เหมาะสมจะเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา มีการจัดงานระดมอาหารให้แก่เพนกวินอาสาสมัคร ที่อุทิศเวลาทำงานเพื่อส่วนรวมจนไม่มีเวลาไปจับปลากินเอง เป็นต้น

6. สร้างความสำเร็จระยะสั้นให้เกิด (Create and Celebrate Quick Win) : ทำสิ่งที่เห็นได้ง่ายและมีผลสำเร็จชัดเจนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเพนกวินพบภูเขาน้ำแข็งแห่งใหม่ที่เหมาะสม กลุ่มผู้นำได้ตัดสินใจสั่งให้ฝูงเพนกวินโยกย้ายถิ่นฐานทันที เพื่อสร้างต้นแบบในการเปลี่ยนแปลง ครั้งแรกพวกเขาพบปัญหาจำนวนหนึ่ง เช่น นกบางตัวหลงทาง เจอพายุระหว่างเดินทาง อาหารไม่พอ เป็นต้น แต่โดยรวมการโยกย้ายประสบความสำเร็จ ทำให้สมาชิกเพนกวินส่วนใหญ่ “เกิดความเชื่อมั่น”

Sustaining for Change:

7. อย่าปล่อยมือ ลุยต่อไปอย่างมุ่งมั่น (Never Give Up until the change is firmly established) : เมื่อประสบความสำเร็จครั้งแรก ให้ลงมือทำให้มากขึ้นและเร็วขึ้นอีก ต้องเร่งมือสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จนกว่าวิสัยทัศน์ที่วาสงไว้จะเป็นจริง ในเรื่องเพนกวินที่เป็นทีมนำจะได้บทเรียนจากการโยกย้ายถิ่นฐานครั้งแรก และดำเนินการโยกย้ายฝูงเพนกวินไปยังภูเขาน้ำแข็งก้อนใหม่ในฤดูหนาวปีต่อมาได้อย่างปลอดภัยและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

8. สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้เกิดขึ้น (Make it Stick) : เชื่อมั่นว่าแนวทางที่สร้างจะนำไปสู่ความสำเร็จ จนกระทั่งสามารถแทนที่วัฒนธรรมเก่าได้ ในเนื้อเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานจากภูเขาน้ำแข็งก้อนเก่าไปสู่ก้อนใหม่ที่มั่นคง มีเกราะป้องกันภัยธรรมชาติ อยู่ใกล้แหล่งอาหาร จากเดิมที่ยึดติดอยู่กับภูเขาน้ำแข็งก้อนเดียวที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่พัฒนาเป็นวัฒนธรรมใหม่ของเพนกวินฝูงนี้ พวกเขายังได้รับบทเรียน รวบรวมองค์ความรู้ และเครื่องมือในการโยกย้ายถิ่นฐาน นำไปพัฒนาเป็นหลักสูตรในโรงเรียน สร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งกล้าที่จะทำและประสบความสำเร็จในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ผู้นำรุ่นเก่าก็ยังทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำ และถ่ายทอดประสบการณ์แก่คนรุ่นใหม่ต่อไปอย่างภาคภูมิใจ

เมื่ออ่านจบเรื่อง “Our Iceberg Is Melting” ดู นิทานเรื่องนี้ได้สะท้อนความกังวลและหวาดกลัวของฝูงนกเพนกวินที่เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อชีวิต และชี้ให้เห็นวิธีคิดวิธีการรับมือกับความท้าทายและการแก้ไขปัญหาที่แฝงไว้อย่างมีชั้นเชิงของตัวละครเพนกวินทุกตัว นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ การใช้ปัญญาวิเคราะห์ต้นเหตุของปัญหา การใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างการมีส่วนร่วมของคนทุกคนในชุมชน ตลอดจนมีความมุ่งมั่นในการลงมือทำ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีเพื่อส่วนรวมอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งสามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวัน การบริหารตัวเอง ทีมงาน หรือองค์กรได้อย่างแน่นอน

ลองหามาอ่าน หรือชมคลิปคร่าวๆ ก่อนกันได้ครับที่ : https://www.amazon.com/Our-Iceberg-Melting-Succeeding-Conditions/dp/0399563911/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1479100529&sr=8-1&keywords=our+iceberg+is+melting

เมื่อภูเขาน้ำแข็งละลาย

: เมื่อภูเขาน้ำแข็งละลาย

รุ่งทิพย์ กล้าหาญ

...ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงด้ววยตนเองเพื่อความอยู่รอด :การเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องสร้างแนวร่วมที่มีพลังและทบทวนอยู่เสมอ..


       ช่วงนี้ดูสถานการณ์การเมืองมีการพูดอ้างอิงถึงการเปลี่ยนผ่าน  ซึ่งส่งผลต่อนโยบายในการพัฒนาประเทศ ทำให้ย้อนนึกถึงนิทานเรื่องหนึ่งซึ่งได้รับฟังโดยวิทยากรคือ ศ.นพ. ประสิทธิ์  วัฒนาภา  รองอธิการบดีฝ่ายแผน  ม.มหิดล  ในการประชุมวิชาการประธานสภาข้าราชการลูกจ้างมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปขมท ) เมื่อเดือนมีนาคม  2552   ฟังแล้วประทับใจมากต้องหาหนังสือมาอ่านชื่อเรื่อง Our Iceberg  is Melting หรือ เมื่อภูเขาหิมะละลาย ของ Jhon  Kotter  สาระสำคัญมีดังนี้คะ

“ เฟรด เป็นนกเพนกวิน วัยกลางคน มีนิสัยช่างสังเกตและชอบทดลองค้นหาความรู้วันหนึ่ง เฟรดว่ายน้ำไปพบว่า  บริเวณด้านล่างของ  Iceberg ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่านกเพนกวินมีโพรงน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่ภายใน   พร้อมจะระเบิด ซึ่งจะทำให้นกเพนกวินทั้งหลายบาดเจ็บเสียชีวิต   เขาตกใจมากพยายามหาวิธีการแก้ไขโดยแจ้งให้สภานกเพนกวินทราบ    จึงตัดสินใจไปพบมิสอลิส นกเพนกวินสาว  ซึ่งเป็นสมาชิกสภานกเพนกวินและมีบุคลิกมีความมั่นใจในตนเองสูง มุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จ   เฟรดเล่าเรื่องโพรงน้ำแข็งให้อลิสฟัง  ครั้งแรกอลิสไม่เข้าใจในสิ่งที่เฟรดเล่า เฟรดจึงพาอลิสไปสำรวจและสาธิตอันตรายของโพรงน้ำแข็งระเบิดให้ทราบ  จนเธอเข้าใจและตระหนักถึงปัญหา จึงรีบไปแจ้งลูอิส ซึ่งเป็นประธานสภานกเพนกวินให้ทราบ  ลูลิศเป็นนกเพนกวินสูงอายุ  มีความสุขุมรอบครอบ มีภาวะความเป็นผู้นำสูง  ลูอิสได้เรียกประชุมกรรมการสภานกเพนกวิน  และมอบหมายให้เฟรดนำเสนอเรื่องโพรงน้ำแข็งให้ที่ประชุมทราบ   ในครั้งนี้จอร์แดน  ซึ่งเป็นกรรมการสภานกเพนกวินและเป็นผู้คนช่างคิดวิเคราะห์  ไม่เชื่ออะไรง่าย  ได้ให้เฟรดสาธิตการระบิดของโพรงน้ำแข็งที่จะส่งผลกระทบต่อ Iceberg  ให้ที่ประชุมทราบจนทุกคนตระหนักและคิดว่าจะช่วยเหลือ

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562

เดือนกุมภาพันธ์-2562 ล่าสุด

ตารางเรียน
เดือนกุมภาพันธ์-2562  ล่าสุด

ตารางเรียน 3/2/2562(วันอาทิตย์)
1)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลา(5,000บาท/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สการซ่อม,ฝังเพชร. (2,200/1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน

ตารางเรียน 10/2/2562
(วันอาทิตย์)
1)คอร์สประเมินราคาและดูเพชรแท้เพชรเทียม (5,000/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สการซ่อม,ฝังเพชร. (2,200/1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน

ตารางเรียน 17/2/2562
(วันอาทิตย์)
1)คอร์สประเมินราคาและดูเพชรแท้เพชรเทียม (5,000/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สชุบทอง ชุบเงิน (2,200บาท /1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน

ตารางเรียน 24/2/2562
(วันอาทิตย์)
1)คอร์สประเมินราคาและดูเพชรแท้เพชรเทียม (5,000/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สการซ่อม,ฝังเพชร. (2,200/1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน

$$$$สามารถเพิ่มคอร์สที่สนใจและสอบถามได้$$$
คอร์สพิเศษ. ฝังพลอยในเทียน(โรงงาน)
1)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลา5,000บาท/วัน/คน
2)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลาเวลา. เน้นบริหารทั้งระบบ55,000บาท/3วัน/ไม่จำกัด
3)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลาเวลา. เน้นบริหารทั้งระบบ95,000บาท/5วัน/ไม่จำกัด
..........................................
### **สนใจลงทะเบียนเรียนให้ยืนยันก่อนเรียน 3 วัน
ธ.กสิกรไทย 995-2-22618-2  นายภาณุสฤษฏิ์ บุญคำ
(**ลงทะเบียนเรียนแล้ว...ไม่สามารถยกเลิกหรือเรียกคืนได้ทุกกรณี)

เรียนวันอาทิตย์ 9.00-17.00น. หรือวันเสาร์
เราสอนถูกต้องตามหลักการผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรม
สอนด้วยดีไซเนอร์ระดับประเทศ
สอนด้วยผู้จัดการฯโรงงานส่งออกระดับโลก
สอนด้วยผู้เชี่ยวชาญการผลิตและวิจัยและพัฒนาฯ
ที่ปรึกษาและฝึกอบรม ทั่วประเทศ
http://gggschool.blogspot.com/
คุณสันต์: 091-8078228 ,061-7896978:gemsde
เฟสบุ๊ค: อ.สันต์ ฝังพลอยในเทียน
https://www.youtube.com/watch?v=u5P_lvdbHEE
Email : sanaw588@yahoo.com,Line ID :  gemssan
https://m.youtube.com/watch?v=XKctywP9YjI
"เพชร...เลอค่า ที่สุดแห่งอัญมณี" หลากหลายวิธีตรวจเพชรแท้-เทียม
โรงเรียนสอนออกแบบและผลิตเครื่องประดับอัญมณี
(Gems and Gemology and Graphic design of school)
199/499 ม.นัฎยา ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 74130

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณ คือ มหาเศรษฐีจากการใช้ 1 สมอง 2 มือ



7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณ คือ มหาเศรษฐีจากการใช้ 1 สมอง 2 มือ

by Smart SME, 18 มกราคม 2560



นิสัยของการเป็นมหาเศรษฐีที่ใช้ความสามารถจาก 1 สมอง 2 มือ ของคนๆ หนึ่ง (ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นท่านก็ได้ ...ใครจะรู้)....จะสะท้อนให้เห็นได้จากปัจจัย หรือสิ่งใดได้บ้าง เว็บไซต์thinkbusinessplan.com ได้รวบรวมสัญญาณ 7 ข้อที่จะบอกว่านี่แหล่ะ มหาเศรษฐีแท้ๆ ตัวจริงเสียงจริงไว้ดังต่อไปนี้.
.... สัญญาณที่ 1 คิดเชิงบวก (Positive Thinking) หรือ มองชีวิตแบบเหรียญสองด้านชีวิตของเรานั้น เป็นผลมาจากการที่เราคิดอย่างไร หรือ คิดว่าจะทำอะไร อย่างไร กับชีวิตเรา หากเราคิดแบบลบๆ ชีวิตเราก็จะเต็มไปด้วยเรื่องลบๆ  ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ มองอะไรเป็นอุปสรรค เป็นปัญหาไปหมด...แบบนี้ชีวิตยอดแย่แน่นอน...ในทางตรงกันข้าม หากคิดเชิงบวก หรือ คิดแบบบวกๆ มองทุกอย่างแบบเหรียญสองด้าน ก็คือ เห็นทั้งด้านบวก และ ด้านลบ....ด้านบวกจะช่วยเราได้อย่างไร และจะป้องกันปัญหา หรือ ความเสี่ยงจากด้านลบอย่างไร แค่นี้ ชีวิตก็ไปได้ฉลุย ถึงแม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ด้วยการคิดเชิงบวก หรือ มองชีวิตแบบเหรียญสองด้าน...ปัญหาทุกอย่าง มักจะถูกพลิกให้เป็นโอกาสได้เสมอ
....สัญญานที่ 2 พูดอย่างที่คิด และทำอย่างที่พูด (Walk the talk)คนที่ดีแต่พูด พูดอย่างนั้น พูดอย่างนี้ แสดงความคิดเห็นทุกเรื่อง....แต่ไม่เคยลงมือทำเลย...หรือ พูดแต่ปาก นั่นเอง คนเหล่านี้ สามารถตัดออกจากโอกาสของการเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือได้เลย
....ในทางตรงกันข้าม เหล่ามหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ นั่น นอกจากจะพูดอย่างที่คิดแล้ว เขาจะทำในสิ่งที่เขาพูดด้วย และที่สำคัญเขาทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ ...ผลที่ตามมาก็คือ เขาจะได้รับความเชื่อถือ ความศรัทธา จากบุคคลรอบข้าง...ความน่าเชื่อถือ นำไปสู่ความเชื่อมั่น .ที่คนรอบข้างมีต่อตัวเขา และพร้อมที่จะสนับสนุน และร่วมงานกับเขา....แต่คนจำพวกเหล่าแรก จะกลายเป็นบุคคลน่ารำคาญ ที่ทุกคนอยากจะอยู่ห่างๆ
....สัญญาณที่ 3 เริ่มต้นการทำงานในทุกๆ วัน...ด้วยความสดชื่นแจ่มใส (Greet the day) หากวันไหน เริ่มตัวด้วยความสดชื่นแจ่มใส...อารมณ์ และความรู้สึกของเรา ในเวลาที่เหลือของวันนั้นมีแนวโน้มจะสดชื่นแจ่มใสไปทั้งวัน แต่ถ้าวันนั้น เริ่มต้นวันใหม่ ทักทายพระอาทิตย์ ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว หรือ หงุดหงิด อารมณบ่ จอย ...เวลาที่เหลือของวันนั้น ก็จะขุ่นมัว เหมือนน้ำใสๆ ที่ขุ่นมัวด้วยตะกอนที่อยู่ในแก้ว นั่นเอง....ดังนั้นเหล่ามหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ จะเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยความสดชื่น เช่น ตอนเช้าจะออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย และชื่นชมกับเวลาใหม่....ในฐานะที่เป็นเวลาอีกหนึ่งวัน ที่จะก้าวไปสู่การเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ
... สัญญาณที่ 4 มีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกับผู้อื่นๆ (Embrace collaboration)  การที่จะเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ มิใช่การทำงานอยู่คนเดียว ในทางตรงกันข้าม ท่านต้องพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้อื่นด้วย เพราะไม่มีใครที่จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยคนเพียงคนเดียว นั่นคือ ท่านต้องมีทีมงานที่ดี คอยช่วย สัญญาณที่ 5 อีดโคตรๆ หรือ สู้ไม่ถอย..ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ (Consistency)
....สัญญานที่ 5 นี้ สำคัญยิ่ง เนื่องจากว่า บางคนคิดบวก แต่ขาดความอึด...ในการต่อสู้ปัญหา หรือ อุปสรรค ก็อาจจะ U-Turn เลี้ยวรถกลับได้ หากเจอปัญหา....เหล่ามหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ว่าจะล้ม กี่ครั้ง แต่ละครั้งเจ็บปวดแสนสาหัสอย่างไร ก็ลุกมาต่อสู้อย่างไม่ย่นย่อ ท้อแท้ หรือ คิดจะถอยหลังกลับแต่อย่างไร
.... สัญญาณที่ 6 ความซื่อสัตย์ (Integrity) ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน....ในยุคที่กฏแห่งกรรม ถูกขับเคลื่อนด้วย Digital Technology หรือ กรรมติดจรวดนั้น ท่านจะเห็นได้ว่า คนขี้โกง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลของความโกงที่ตนเองสร้างไว้ได้เลย...ถึงแม้ว่าตอนต้น ความโกงนั้นมาอาจสร้างผลดีกับคนโกงนั้น
 ....ดังนั้นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ...ทุกคนที่สามารถคงสถานะความเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ซื่อตรง... สัญญาณที่ 7 ฟังเสียงภายในของตนเอง (Listen to inner voice) สัญญานที่ 7 เป็นสัญญาณที่สำคัญยิ่ง....นั่นคือ คนเราจะมีความสุขได้ ก็เข้าใจว่าความต้องการที่แท้จริงของตนเองคืออะไร....หากเราทำในสิ่งที่เป็นตัวเรา เราจะมีความสุขโดยอัตโนมัติ...แต่หากเราต้องทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา หรือ ทำให้สิ่งที่เราไม่มีความสุข...(เช่น ทำตามที่สังคมกะเกณฑ์ให้เราทำ)...เราก็จะไม่มีความสุข...วิธีการทำให้เรารู้ว่าเราต้องการอะไร ก็คือ ต้องฟังเสียงจากภายในของท่าน...ด้วยการสังเกต...ว่าจริงแล้ว อะไรที่ท่านทำแล้วมีความสุข...เพราะหากสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข...เราก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี และพร้อมที่จะลุยทุกอุปสรรค

....เหล่ามหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ ทุกคน ล้วนแล้วแต่ทำในสิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา ดังนั้นเขาจึงฝ่าฝันอุปสรรคจนเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือได้...หากท่านมีทั้ง 7 สัญญาณในตัวท่าน ท่านก็เตรียมเป็นมหาเศรษฐี 1 สมอง 2 มือ ได้เลย

  ดร.อรรถสิทธิ์ หัสถีธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์, Infopreneur และ Strategy Pirate ที่มาบทความ: https://www.entrepreneur.com/article/282495

Tag : คิดบวก มหาเศรษฐี สัญญาน คิดลบ