วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้ดึงดูดใจลูกค้า

5 กลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้ดึงดูดใจลูกค้า

SHARE ON:   

TEMSIRI.J— 30/08/2017

by: ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ

การสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ เพราะไม่เพียงแค่เพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเท่านั้น  แต่ยังช่วยสร้างเอกลักษณ์และคุณค่าให้แก่แบรนด์ได้อีกด้วย การเกิดขึ้นของแพล็ตฟอร์มจากการมีปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าจะช่วยยกระดับการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และคุณค่าของแบรนด์ให้แก่ธุรกิจทั้งหลาย 

หากคุณกำลังคิดที่จะสร้างแบรนด์บุคคลหรือธุรกิจ คุณจำเป็นต้องรู้ว่า การสร้างแบรนด์นั้นใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรต่างๆ ซึ่งต่อไปนี้เราจะได้ทราบถึงคำจำกัดความของการสร้างแบรนด์และได้เห็นตัวอย่างของแบรนด์ต่างๆ รวมไปถึงขั้นตอนการสร้างสรรค์แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย

 

การสร้างแบรนด์คืออะไร 

ไม่มีคำจำกัดความใดที่สามารถรวบรวมสาระสำคัญของการสร้างแบรนด์ตามความเป็นจริงได้ทั้งหมด หลายๆ คนคิดว่า การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารและการเผยแพร่แบรนด์ของคุณ ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์เท่านั้น เราสามารถให้คำจำกัดความการสร้างแบรนด์ที่ดีที่สุดก็คือ เป็นกระบวนการในการสร้างสรรค์คุณค่าให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกค้ารู้จัก รู้สึก และมีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของคุณทั้งหมดไว้ด้วยกัน 

ในการสร้างสรรค์แบรนด์ที่ชัดเจน เราจะพิจารณาแบรนด์ซึ่งเป็นที่นิยมถึง 3 ประเภท และสิ่งที่แบรนด์แต่ละประเภทยึดมั่น ดังต่อไปนี้

แบรนด์ด้านบริการ (Service Brand) แบรนด์ประเภทนี้ถูกสร้างขึ้นบนความรู้ วัฒนธรรม วิธีปฏิบัติ และประสบการณ์ที่บริการส่งมอบไปยังผู้คนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ดีเอชแอล ขสมก. ไปรษณีย์ไทย เอวิส บัดเจ็ท เป็นต้นแบรนด์ธุรกิจค้าปลีก (Retail Brand) แบรนด์ประเภทนี้ถูกสร้างขึ้นบนการผสมผสานของสินค้าและประสบการณ์ในการบริการ ได้แก่ พาวเวอร์บาย เคเอฟซี แมคโดนัลด์ ยูนิโคล่ ซาร่า เป็นต้นแบรนด์สินค้า (Product Brand) เป็นแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นบนประสบการณ์ที่ลูกค้ามีต่อสินค้านั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น ไนกี้ ฟอร์ด โซนี่ โตโยต้า สิงห์ ยู-เบียร์ เป็นต้น

 

เมื่อเรารู้จักแบรนด์ทั้ง 3 ประเภท  ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 

ระบุความชัดเจนแบรนด์ของคุณ
ขั้นตอนแรกในการสร้างแบรนด์ ก็คือ ระบุความชัดเจนแบรนด์ของคุณ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะเป็นขั้นตอนการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า แบรนด์ของคุณจะมุ่งเดินไปในทิศทางใดอย่างแท้จริง ในการระบุความชัดเจนแบรนด์ของคุณ คุณควรบอกถึงจุดแข็งที่สำคัญของแบรนด์คุณ เช่นเดียวกันหากคุณกำลังระบุความชัดเจนแบรนด์บุคคล คุณก็ควรมองหาความสามารถและความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นที่คุณมีเป็นพิเศษบนสัญลักษณ์เดียวกัน คุณต้องรู้ว่าแบรนด์ของคุณมุ่งไปในทิศทางใด และอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับแบรนด์ของคุณ หรือที่เรียกว่า “คุณค่าของแบรนด์” คุณค่าแบรนด์ของคุณควรจะอยู่ในแนวทางเดียวกัน หากคุณต้องการแสดงว่า คุณกำลังสนับสนุนสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจที่ดีของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คุณอาจจะไม่ตระหนักถึงแง่มุมที่สำคัญของการสร้างแบรนด์บางประการเหล่านี้ในทันทีจนกว่าคุณจะมองเห็นแง่มุมดังกล่าวนี้อย่างเป็นรูปธรรมเสียก่อน

 

สร้างความแตกต่างและวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณ
ก่อนเริ่มดำเนินการสร้างแบรนด์คุณต้องใช้เวลาในการหาหรือสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ เพื่อให้สามารถดึงดูดความสนใจลูกค้าและมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขัน ในการหาหรือสร้างความแตกต่างให้แก่แบรนด์นั้น คุณต้องสร้างสรรค์จุดเด่นที่เป็นลักษณะเฉพาะในใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความสนใจด้วยสี โลโก้ หรือส่วนประกอบเพียงผิวเผินอื่นๆ เท่านั้น เมื่อคุณมีข้อเสนอคุณค่าที่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะแล้ว คุณควรใช้กลยุทธ์การทำแบรนด์ที่ดีในการวางตำแหน่งแบรนด์ในแนวทางที่จะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมองเห็นและพึงพอใจคุณค่าของแบรนด์ของคุณที่เหนือกว่าคุณค่าของคู่แข่งขันในตลาดด้วย มิเช่นนั้นแบรนด์ของคุณก็ขาดความน่าสนใจและไม่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้

 

สร้างและเผยแพร่แบรนด์ของคุณ
ในการสร้างแบรนด์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจบ แต่การสร้างแบรนด์ธุรกิจหรือแบรนด์บุคคลที่มีเอกลักษณ์และเปี่ยมไปด้วยพลังนั้นต้องใช้เวลาและความต่อเนื่องเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการสร้างแบรนด์บุคคลคุณต้องเสริมความแข็งแกร่งของคุณค่าและทักษะของคุณโดยการเริ่มต้นภารกิจและงานใหม่ๆ ที่จะช่วยเผยแพร่แบรนด์ของคุณให้มากขึ้น  และอีกทางเลือกหนึ่งคุณสามารถใช้ช่องทางในการโปรโมท บล็อค ฟอรั่ม และโซเชียลมีเดีย เช่น ลิงค์อิน ทวิตเตอร์ และเฟสบุ๊ค เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์บุคคลหรือแบรนด์ธุรกิจของคุณให้เป็นที่รู้จักให้มากที่สุด

เมื่อคุณสร้างแบรนด์ของคุณ คุณควรพยายามพัฒนาบุคลิกแบรนด์ ที่เป็นสิ่งที่คนรู้ คิด และพูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ  ซึ่งช่วยผลักดันหรือชักจูงผู้คนให้แยกแยะแบรนด์ของคุณ และเชื่อมต่อกับแบรนด์ของคุณ หากคุณดำเนินการตามกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างสอดคล้องและกลมกลืนกับแพล็ตฟอร์มที่กำหนดเป็นกรอบไว้  คุณก็สามารถที่จะสร้างแพทเทิร์นเชื่อมโยงกับชื่อแบรนด์ของคุณได้อย่างง่ายและยิ่งทำมันอย่างต่อเนื่องก็จะส่งผลให้แบรนด์ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป

 

ทำแบรนด์ของคุณให้มีลักษณะเป็นส่วนบุคคล
หากคุณต้องการให้แบรนด์หรือแคมเปญการสร้างแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ คุณต้องทำให้แบรนด์มีลักษณะเป็นส่วนบุคคล คุณจำเป็นต้องทำให้แบรนด์ของคุณมีอัตลักษณ์ ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นและพบกับบุคลิกลักษณะที่แท้จริงของแบรนด์คุณให้ได้ คุณต้องทำให้แบรนด์ของคุณเป็นสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต้องการ ด้วยการระบุอย่างเฉพาะเจาะจงเช่นเดียวกับที่พวกเขาปรารถนาทำกับสินค้าเฉกเช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ที่เขาชื่นชอบให้ได้

เมื่อคุณสร้างแบรนด์ คุณควรเชิญลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาเป็นคนคิดสร้างสรรค์คุณค่าของแบรนด์ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกว่า พวกเขานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นเจ้าของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงควรส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยการทำให้สินค้ามีลักษณะเป็นส่วนบุคคล เพื่อให้ตรงตามความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เมื่อคุณทำแบรนด์ให้มีลักษณะเป็นส่วนบุคคลแล้ว คุณมีเหตุผลที่จะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมและผูกมัดพวกเขากับแบรนด์ของคุณได้ตลอดไป

 

ทบทวนและตรวจสอบแบรนด์ของคุณ
แบรนด์ของคุณไม่ได้อยู่กับที่ แต่จะเคลื่อนไปตามลำดับการเคลื่อนไหวในช่วงชีวิตของแบรนด์ แบรนด์ของคุณจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งหรือหยุดการเจริญเติบโตหรือถอยหลังก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของคุณ ในวงจรชีวิตของแบรนด์นั้น เหตุการณ์ใหม่ การเปลี่ยนแปลงและสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป จะนำมาซึ่งความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาคุณค่าแบรนด์ของคุณหรือการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ ความเป็นไปได้ทั้งหมดดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้คุณควบคุมดูแลกิจกรรมการสร้างแบรนด์ของคุณอย่างเป็นระบบและเกิดความต่อเนื่อง จึงจะทำให้การบริหารแบรนด์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อแบรนด์ของคุณเติบโตขึ้นคุณต้องทำภารกิจและสิ่งที่คาดหวังต่างๆ เพื่อให้การสร้างแบรนด์ดำเนินต่อไป วิธีที่ดีที่สุดในการรับประกันการเติบโตของแบรนด์ ก็คือ การทบทวนกิจกรรมของคุณและประเมินผลความสำเร็จผ่านตัวชี้วัด เช่น ระดับของการรับรู้และระดับของความผูกพัน การทบทวนและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณคว้าโอกาสใหม่ๆ และใช้โอกาสเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ในการทำพันธะสัญญาของคุณให้เกิดความยั่งยืนและยังช่วยรักษาความเที่ยงตรงของวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของคุณไว้ นอกจากนี้ยังช่วยนำทางการสร้างแบรนด์ของคุณให้ดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องและทำให้แบรนด์ยังคงมีความสัมพันธ์กับผู้คนที่เกี่ยวข้องเมื่อคุณก้าวไปสู่อนาคต

 

คุณจะเห็นได้ว่า การสร้างแบรนด์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจบ คุณต้องกำหนดคุณค่าแบรนด์ของคุณ สร้างความแตกต่าง นำเสนอ รวมถึงตรวจสอบและทำการทบทวนสิ่งที่แบรนด์ของคุณยึดมั่นเป็นระยะๆ ที่สำคัญคือคุณต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ และวิธีที่จะทำให้แบรนด์ประสบผลสำเร็จ  คุณควรจะเลือกใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้า และช่วยทำให้พวกเขาเกิดและดำรงไว้ซึ่งความประทับใจในตราสินค้าของบริษัทคุณและสิ่งที่บริษัทของคุณยึดมั่นอย่างแท้จริงนั่นเอง

 

แล้วพบกับเรื่องราวดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณในฉบับหน้านะครับ บาย! 

4 วิธีดีๆ ในการ “สร้างความมั่นใจ” เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับวิกฤติปัญหา

4 วิธีดีๆ ในการ “สร้างความมั่นใจ” เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับวิกฤติปัญหา
สิงหาคม 31, 2017

“คนที่ยังยิ้มได้ในยามวิกฤติ คือคนที่รู้ว่า แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เป็นความผิดของคุณเอง”

บางครั้งคนที่จะมองโลกในแง่ดีในยามวิกฤติได้ ก็คือคนที่รู้ตัวว่านั่นไม่ใช่ความผิดของเขา กระนั้นก็มีอีกหลายวิธีที่ทำให้คนเราคิดบวกได้ในยามคับขันเช่นนี้อยู่มากมาย ที่สำคัญเรายังสามารถพลิกทุกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้  ถึงแม้ว่าโอกาสเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

ผู้นำที่ดีจะรับมือกับวิกฤตการณ์ด้วยความเชื่อมั่น เราอาจไม่อยากยิ้ม แต่เราจะเดินหน้าด้วยความรู้สึกที่ว่า เราต้องมีหนทางในการแก้ไขวิกฤตินี้ กุญแจสำคัญของการจัดการกับมันก็คือการวางแผนอย่างรอบคอบ เหล่าผู้นำมักทราบกันดีว่าปัญหาล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น เรามาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะทำให้คุณเชื่อมั่นและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ

1. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์

จอห์น วูดเดน โค้ชบาสเก็ตบอลผู้มีชื่อเสียงแห่งมหาวิทยาลัย California-Los Angeles กล่าวว่าสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดจากการเป็นโค้ชคือ การฝึกซ้อม โค้ชผู้ล่วงลับกล่าวว่าที่สุดของการซ้อมคือผลลัพธ์ที่ผู้เล่นสามารถเล่นได้โดยอัตโนมัติ ในทางกลับกันหากถึงเวลาแต่คุณยังซ้อมไม่มากพอ มันก็สายเกินกว่าที่คุณจะมาเตรียมตัวแล้ว หากจะรอจนกว่าถึงภาวะวิกฤติถึงค่อยเตรียมตัว คุณก็สายเกินไปเสียแล้ว

“หากจะรอจนกว่าถึงภาวะวิกฤติถึงค่อยเตรียมตัว คุณก็สายเกินไปเสียแล้ว” – จอห์น ซี. แมกซ์เวลล์ (JOHN C. MAXWELL)

เตรียมความพร้อมโดยมองหาความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้วคิดวิธีรับมือ  นอกจากนี้ก็ใช้เวลาเรียนรู้ไปกับผู้เชี่ยวชาญในสายงานของคุณ ถามเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขาเคยเจอซึ่งเป็นสิ่งที่คุณอาจจะได้เผชิญในอนาคต คุณอาจได้รับคำแนะนำและวิธีแก้ที่เป็นประโยชน์กลับมาก็ได้

ไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้แต่คุณสามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้ คิดเผื่อล่วงหน้าและซ้อมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แล้วคุณจะรับมือกับมันได้โดยอัตโนมัติ ยิ่งคุ้นเคยกับสถานการณ์มากเท่าไหร่ คุณก็จะตอบสนองได้อย่างมั่นใจเท่านั้น

2. ให้นิยามต่อความเป็นจริง

ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการกล่าวไว้ว่า “ช่วงเวลาอันวุ่นวายนั้นอันตรายอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดของช่วงเวลาแบบนี้ก็คือ การหนีความจริง” แทนที่จะหนีความจริงเมื่อพบกับปัญหา ผู้นำที่ดีจะให้ศึกษาปัญหานั้นโดยมองตามหลักความเป็นจริง

“ช่วงเวลาอันวุ่นวายนั้นอันตรายอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดของช่วงเวลาแบบนี้ก็คือ การหนีความจริง” – ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ (PETER DRUCKER)

เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ให้ใช้เวลาอยู่คนเดียวแล้วทบทวนว่าปัญหาคืออะไร? เกิดขึ้นเพราะอะไร? จะแก้ได้อย่างไร? ขอให้ผู้ร่วมทีมช่วย การแยกปัญหาออกมาเป็นกลุ่มที่แก้ได้และแก้ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญมาก คุณต้องรู้ว่าอะไรบ้างที่อยู่ในการควบคุมของคุณและเน้นไปตรงจุดนั้น สุดท้าย วางแผนแก้ไขปัญหาที่แก้ได้ หากคุณมีแผนที่ชัดเจนคุณก็จะแก้ไขมันได้อย่างมั่นใจ

3. สื่อสารกับผู้คนอย่างสม่ำเสมอ

นี่เป็นส่วนหนึ่งของการให้จำกัดความต่อความเป็นจริง คุณจะต้องปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนที่ปฏิบัติต่อตัวเอง การประสบปัญหาทำให้คุณเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับปัญหานั้น แต่การทำแบบนั้นไม่ได้ช่วยให้คนอื่นมั่นใจมากขึ้นเลย ให้คุณเปิดใจคุยกับสมาชิกของคุณเกี่ยวกับปัญหา การคุยตรงๆ จะทำให้พวกเขารู้ว่าคุณใส่ใจพวกเขา ปรึกษาเรื่องแผนการแก้ไขกับพวกเขาอยู่เสมอ

แอนดี้ สแตนลีย์ เป็นศาสนาจารย์ในรัฐจอร์เจียร์กล่าวว่า “ทัศนะคติของคนเรา มักพร่าเลือนตามเวลา” ซึ่งหมายความว่า ผู้นำอาจไม่สามารถแบ่งปันความคิดแก่ผู้ร่วมทีมเพียงแค่ครั้งเดียวได้ จึงควรต้องแบ่งปันวิธีคิดให้กับพวกเขาบ่อยๆ เพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หากคุณสื่อสารกับสมาชิกอย่างสม่ำเสมอคุณจะเป็นผู้นำที่มีความไว้วางใจและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

4. เรียนรู้ที่จะเติบโต

ริค วอร์เรน ศาสนาจารย์จากแคลิฟอเนียร์ กล่าวว่า “คุณจะหยุดการเป็นผู้นำทันทีที่คุณหยุดเรียนรู้” คุณคงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่าคนวิกลจริตคือคนที่ทำอะไรซ้ำๆ แต่ต้องการผลลัพธ์ใหม่ๆ ให้หยุดวงจรอุบาทว์นี้เสียเถอะ ลองหาเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่คุณทำถึงไม่ได้ผล แล้วจึงลองวิธีอื่นๆ ต่อไป ตั้งใจทบทวนประสบการณ์ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านการตกตะกอนมาแล้วเท่านั้นจึงจะเป็นครูที่ดีที่สุดของคุณ

ความแตกต่างระหว่างคนทั่วไปกับคนที่ประสบความสำเร็จก็คือ มุมมองและการตอบสนองต่อความล้มเหลว เมื่อคุณผ่านพ้นปัญหาวิกฤติไปได้ ให้กลับมาทบทวนความเป็นผู้นำของตัวเองในช่วงเวลานั้น คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะพัฒนะความเป็นผู้นำ การสื่อสาร การแก้ปัญหา และการรวมทีมได้อย่างไร อาจไถ่ถามความคิดเห็นจากผู้ร่วมทีมว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างและคุณควรจะปรับปรุงส่วนไหนได้บ้าง ก็เป็นวิธีที่ดีทีเดียว

ปัญหาเป็นสิ่งที่กระตุ้นความเครียดและไม่มีใครชอบนัก แต่ในชีวิตจริง มันต้องมาพร้อมกับภาวะผู้นำ ซึ่งหากคุณเตรียมตัวรับมือล่วงหน้าและแก้ไขปัญหาได้อย่างดีล่ะก็ คุณจะสามารถผ่านพ้นปัญหาทั้งหมดทั้งมวลไปได้อย่างมั่นใจ

 

Source: Success

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คอร์สเรียนออกแบบและผลิตเครื่องประดับ


วันอาทิตย์ 3/9/2017(วันหยุด)

ตารางเรียน 10/9/2560(วันอาทิตย์)
1)คอร์สทำแหวนเพชรและประเมินราคาสำหรับค้าขาย(5,000บาท/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ฝังเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สชุบทอง ชุบเงิน (2,200บาท/1วัน)
4)คอร์สช่างผ่าพิมพ์ยาง...(2,200/1วัน)
5)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน)

ตารางเรียน 17/9/2560(วันอาทิตย์)
1)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลา(5,000บาท/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สการซ่อม,ฝังเพชร. (2,200/1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน)

ตารางเรียน 24/9/2560(วันอาทิตย์)
1)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลา(5,000บาท/วัน)
2)คอร์สการซ่อม,ตัดต่อไซส์แหวน,ทำแหวนเพชร. (2,200/1วัน)
3)คอร์สการขึ้นรูปแว็กซ์พื้นฐาน (2,200/1วัน)
4)คอร์สกราฟิกดีไซน์ (15,000/5วัน)

$$$คอร์สเพิ่มเติมตามความต้องการของผู้เรียน
1.คอร์สทำกรอบพระขึ้นมือ (2,200/1วัน)
2.คอร์สผ่าพิมพ์ยาง (2,200/1วัน)
3.คอร์สดูเพชรแท้  เพชรเทียม (2,200/1วัน)
4.คอร์สซื้อขายเศษผงทองแท้ ทองเทียม (2,200/1วัน)

$$$$สามารถเพิ่มคอร์สที่สนใจและสอบถามได้$$$
คอร์สพิเศษ. ฝังพลอยในเทียน(โรงงาน)
1)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลา5,000บาท/วัน/คน
2)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลาเวลา. เน้นบริหารทั้งระบบ55,000บาท/3วัน/ไม่จำกัด
3)ฝังพลอยในเทียนกับการลดต้นทุนเวลาเวลา. เน้นบริหารทั้งระบบ95,000บาท/5วัน/ไม่จำกัด

### สนใจให้ยืนยันก่อนเรียน 3 วัน นะครับ
เรียนวันอาทิตย์ 9.00-17.00น. หรือวันจันทร์
เราสอนถูกต้องตามหลักการผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรม
สอนด้วยดีไซเนอร์ระดับประเทศ
สอนด้วยผู้จัดการฯโรงงานส่งออกระดับโลก
สอนด้วยผู้เชี่ยวชาญการผลิตและวิจัยและพัฒนาฯ
ที่ปรึกษาและฝึกอบรม ทั่วประเทศ
http://gggschool.blogspot.com/
คุณสันต์: 091-8078228 เฟสบุ๊ค: อ.สันต์ ฝังพลอยในเทียน
https://www.youtube.com/watch?v=u5P_lvdbHEE
Email : sanaw588@yahoo.com,Line ID : gemsara
https://m.youtube.com/watch?v=XKctywP9YjI
"เพชร...เลอค่า ที่สุดแห่งอัญมณี" หลากหลายวิธีตรวจเพชรแท้-เทียม
โรงเรียนสอนออกแบบและผลิตเครื่องประดับอัญมณี
(Gems and Gemology and Graphic design of school)
199/499 ม.นัฎยา ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 74130

9 นิสัยที่จะทำให้เรามีอิทธิพลต่อผู้อื่น

9 นิสัยที่จะทำให้เรามีอิทธิพลต่อผู้อื่น

ผู้นำที่ดีและยั่งยืนขึ้นอยู่กับความสามารถในการมีอิทธิพลต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอิทธิพลที่เกิดจากความนิยมชมชอบ ไม่ใช่ความกลัว แล้วจะทำอย่างไรให้เราเป็นที่รัก เป็นที่นิยมชมชอบของคนรอบข้างล่ะ มาดูกัน

มีทัศนคติเชิงบวก ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคมากน้อยเพียงใด คนที่เป็นผู้นำโดยธรรมชาติมักจะมีทัศนคติเชิงบวก และสามารถสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเองและคนรอบข้างได้เสมอเรียนรู้จากความผิดพลาด คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด ไม่เคยทำอะไรพลาด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย และในเมื่อเราได้ลงมือทำแล้ว แม้ว่ามันจะผิดพลาด ก็อย่าปล่อยให้การกระทำของเราศูนย์เปล่า จงเรียนรู้จากบทเรียนที่เกิดขึ้นให้มาก เพื่อลดการผิดพลาดซ้ำ ๆ ในเรื่องเดิม ๆแบ่งปันความคิดของตัวเอง และรับฟังมุมมองความคิดของคนอื่นมีน้ำเสียงที่เป็นมิตร และคิดก่อนพูดเสมอ ทั้งในด้านของเหตุผล และในด้านของความรู้สึกของผู้อื่นรักษาความสุขุมนุ่มลึกของตัวเองไว้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าระหว่างวันจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ มากเพียงใดเปิดใจยอมรับความแตกต่าง และความเปลี่ยนแปลงไม่เรียกร้องความสนใจ แต่ความสนใจที่ได้มา มักจะมาจากการเสียสละหรือความสำเร็จที่ได้รับชื่นชมผู้อื่นอย่างจริงใจ ใคร ๆ ก็ชอบคำชมทั้งนั้น แต่หากอยากให้เขารักเราไปนาน ๆ เราควรมองหาข้อดีของเขา แล้วชื่นชมเขาอย่างจริงใจ ห้ามเสแสร้งแกล้งชมโดยเด็ดขาดไว้ใจใครสักคน ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องในตัวเองได้ เพื่อการพัฒนาตัวเองต่อไป

ข้อมูล : http://www.lifehack.org/316989/10-habits-likable-and-influential-people

เล่นเป็นเรียน : เรียนให้ต่าง เล่นให้ได้ความรู้

เล่นเป็นเรียน : เรียนให้ต่าง เล่นให้ได้ความรู้

ครูลูกกอล์ฟ กล่าวว่า “Angkriz เป็นโรงเรียนที่ลูกกอล์ฟอยากทำตอนที่อยู่ปีสาม นิเทศจุฬาฯ ตอนนั้นตัดสินใจว่าอยากมีโรงเรียน ก็เลยคุยกับนักเรียนตอนสอน ภาพลักษณ์ของ Angkriz ที่สื่อสารกับคนนอกคือความจี๊ดจ๊าด เปรี้ยว ตามบุคลิกคนแฟชั่นของลูกกอล์ฟ ทั้งห้องเรียนที่มีรันเวย์ตรงกลาง หนังสือเรียนที่มองเผินๆ เหมือนนิตยสารแฟชั่นที่มีดาราชื่อดังมาถ่ายแฟชั่นเซ็ตลงหน้าปก และที่สำคัญสโลแกนที่ปรากฎอยู่ทั้งที่โรงเรียนและบนหน้าปกหนังสือ คือ "Don’t judge a book by its cover"

เนื้อหาวันนี้แบ่งเป็นสามส่วนง่ายๆ นำความรู้จากนิเทศจุฬาฯ เป็นเรื่องของ "การสื่อสาร" ตัวอักษร S, M และ R ทั้งสามตัวนี้คือองค์ประกอบสามอย่างที่จะเป็นกับการสื่อสาร นั่นคือ Sender (ผู้ส่งสาร) Message (สารที่จะสื่อ) และ Reciever (ผู้รับสาร)

ในฐานะครู สามสิ่งคือปัจจัยที่ลูกกอล์ฟมองว่าเราควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่ในเชิงการศึกษาเท่านั้น แต่หมายถึงการใช้ชีวิตด้วย “ในชีวิตของคุณอาจมีครูค่อนข้างเยอะ ครูบางคนอยู่กับเรามาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเราเลย แต่ครูบางคนเข้ามาแค่คาบเดียว กลับเปลี่ยนมุมมองเราไปทั้งชีวิต

นอกจากการ "ให้ทางเลือก" กับผู้เรียนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สอน (หรือใครก็ตาม) ในฐานะของ Sender ควรให้ความสำคัญ เรื่องของทักษะในการสื่อสาร และความพร้อมของผู้รับเองก็สำคัญในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน

“ตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่ Sender งงๆ Message ก็ไม่เคลียร์ Reciever ก็ไม่พร้อม จะทำยังไงล่ะ?”

ครูลูกกอล์ฟ ตั้งคำถามทุกคนในห้องสัมมนา “ทุกคนเริ่มเลยค่ะ ก่อนจะคุยกับใคร วางมือถือ มองตาเขา ถามเขาว่าพร้อมไหม ไม่ต้องตะโกน เวลาลูกกอล์ฟจะให้เด็กฟัง เราจะเงียบ จริงๆ คนบอกว่าเสียงมีพลัง แต่จริงๆความเงียบมีพลังมากกว่านะคะ”

ความเงียบเป็นสิ่งที่สำคัญ เวลาที่เราจะเริ่มสื่อสารอะไรบางที่สำคัญออกไป แต่ที่สำคัญกว่า คือทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร ที่ควรอยู่ในความพร้อมด้วยกันทั้งคู่ ผ่านอวัยวะที่ชื่อว่า "หู" และ "ดวงตา"

สายตามนุษย์สำคัญที่สุด มันไม่โกหก ต่อให้เราเป็นนักแสดงที่เก่งแค่ไหน จะตอแหลเก่งแค่ไหน สายตามันโกหกยากมาก มองเขา มองให้เข้าใจสาร บางครั้งพ่อแม่หรือครูหวังดี แต่สารที่ส่งออกไป "ทำไมโง่อย่างนี้ ...!" แต่จริงๆ อยากจะบอกเขาว่า "เฮ้ย ตั้งใจเรียนหน่อย ทำไมไม่พยายาม" แต่ดันเลือกวิธีที่จะส่งสารแบบนี้

Tags : okmd, knowledge festival, Angkriz, ครูลูกกอล์ฟ