วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

ทองเค

ทองK 8k,9k,10k,12k,14k,18k,22k,24k, ตราแสตมป์บนทอง (hallmark) บอกอะไรคุณ?

Karat กะรัตทอง … หรือคนไทยเรียกสั้นๆง่ายๆว่า “K” มันเป็นหน่วยวัดส่วนผสมของทองในส่วนต่อ 1000 หรือ 100% ก็คือ 24k นั่นเอง เพราะฉนั้น ตัว K หรือกะรัต มักจะใช้ตัวย่อเป็นตัวเลข 3หลัก หรือไม่ก็ K ตรงๆไปเลย ยกตัวอย่างนะ ถ้าตัวเลข3หลักคือ 585 ก็หมายถึง ทอง 14K ซึ่งมีเนื้อทองคำผสมอยู่ 58.8%

ลองมาดูว่าทองเคมีกี่ชนิด และกี่ชื่อเรียกอะไรบ้าง?
-     8K, 8ct หรือ 333   (ได้รับความนิยมบ้างในกลุ่มประเทศยุโรป)
-     9K, 9ct หรือ 375  (ได้รับความนิยมในฝั่งอังกฤษและออสเตรเลีย)
-     10K, 10ct หรือ 416  (ได้รับความนิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา)
-     12K, 12ct หรือ 500 (ส่วนใหญ่จะเป็นนาฬิกาเก่า ไม่ค่อยเห็นนำมาทำเครื่องประดับกัน)
-     14K  14ct หรือ 585  (นิยมกันในตลาดเอเชีย และตลาดต่างประเทศรวมถึงในประเทศสหรัฐอเมริกา)
-     18K, 18ct หรือ 750  (เป็นที่นิยมมากสำหรับ ทอง18k เป็นมาตรฐานทองขั้นต่ำสำหรับขายในอิตาลี)
-     22K, 22ct หรือ 916  (คนไทยเรียกทอง 90 ชอบเอามาทำ แหวน กรอบพระต่างๆ)
-     24K, 24ct หรือ 1000  หรือทองบริสุทธิ์ (อ่อนเกินไปสำหรับการผลิตเครื่องประดับใส่)

แต่ทั้งหมดนี้ ล้วนมีส่วนผสมของทองคำแท้ทั้งสิ้น จึงมีราคาสูงตามปริมาณทองคำที่ผสมลงไปในเครื่องประดับ

สแตมป์หรือตราประทับบนทอง เวลาดูให้สังเกตุนะครับว่า ถ้ามีอักษรพวกนี้อยู่ข้างหน้าตัวเลขให้ระวัง เช่น EP, GP, HGP, (Electroplate, gold plate, hard gold plate ) พวกนี้จะหมายความว่าทองชุบ

ส่วนตัวเลข 800, 925, 950 ตัวเลขพวกนี้จะอยู่บนเครื่องประดับโลหะเงิน

ส่วนทองคำขาวนั้น คือการนำโลหะทองคำตามธรรมาชาติที่มีสีเหลืองมาผสมกับโลหะอื่นตามอัตราส่วนผสมที่กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อให้ได้สีออกมาเป็นสีขาวมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เนื้อทองคำ 18k เมื่อมีโลหะทองสีเหลืองอยู่ 75% จะผสมกับโลหะอะไรก็ยังคงมีสีเหลืองให้เห็น ดังนั้นโดยปกติเครื่องประดับทองคำขาวที่ทผสมโลหะเนื้อทองคำแท้กับโลหะอื่น มักจะนำไปชุบสำเร็จด้วยโลหะโรเดียมอีกชั้น เพื่อความสวยและความสวยแวววาว เพราะโลหะโรเดียมนั้น มีความแววววาวสูง และสีสันก็สวยงามด้วย แต่เนื้อโลหะก็ยังเป็นทองคำอยู่ และราคาก็ไม่ต่างจากทองคำสีเหลือง

ไม่มีความคิดเห็น: