มาดูอาชีพก่อนหน้านี้ของเหล่า 15 เศรษฐีระดับโลก ชีวิตไม่ได้ดี๊ดีตั้งแต่แรกหรอกนะ!
THE ENSURE TEAMTHE ENSURE TEAM2 hours agono commentประสบความสำเร็จอาชีพเศรษฐีระดับโลก
97
VIEWS
Ensure Communication
ทุกคนต้องมีงานแรกที่เคยทำกันทั้งนั้น แต่เคยรู้ไหมว่ามหาเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับโลก กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาเหล่านั้นเคยทำอาชีพอะไรมาก่อน
หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกนั้น ก่อนที่จะประสบความสำเร็จร่ำรวยแบบทุกวันนี้ เขาเคยผ่านอะไรมาบ้าง และเคยทำอาชีพอะไรมาก่อน วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนย้อนกลับไปในวันแรกที่พวกเขาเหล่านั้นเริ่มต้นทำงาน จนค่อย ๆ สร้างเนื้อ สร้างตัว ประสบความสำเร็จเหมือนดังเช่นทุกวันนี้ ซึ่งคาดไม่ถึงว่า บางคนเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ หรืออาชีพที่ได้เงินเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ปัจจุบัน อย่างกับหนังคนละม้วน !
1. วอร์เรน บัฟเฟตต์ : เด็กส่งหนังสือพิมพ์
ใครจะเชื่อว่าเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ครั้งหนึ่งเคยปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์มาก่อน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงรักธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ยิ่งนัก ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เข้าไปซื้อหุ้นของหนังสือพิมพ์ The Washington Post รวมถึง Omaha World Herald แม้ใครจะมองว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ในช่วงขาลงแล้วก็ตาม ปัจจุบัน บัฟเฟตต์ เป็นเจ้าของทรัพย์สินมูลค่ากว่า 76.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.5 ล้านล้านบาท
2. โดนัลด์ ทรัมป์ : เก็บขวดโซดาขาย
โดนัลด์ ทรัมป์ เคยเล่าว่าเงินก้อนแรกที่เขาหาได้ด้วยตนเอง ก็คือการออกไปกับพี่ชายเพื่อเก็บขวดโซดาในโรงงานของพ่อมาขาย และนั่นก็ทำให้เขาได้เรียนรู้การทำธุรกิจเป็นครั้งแรก จนผลักดันให้ทรัมป์กลายเป็นนักธุรกิจและผู้นำหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
3. เจมส์ คาเมรอน : ขับรถบรรทุก
หลายคนคงรู้จัก “เจมส์ คาเมรอน” ผ่านผลงานภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Titanic หรือ Avatar แต่ก่อนที่เขาจะเข้าสู่วงการภาพยนตร์จนเป็นผู้กับกำชื่อดังอย่างทุกวันนี้ เขาเคยหาเงินเลี้ยงชีพด้วยการขับรถบรรทุกมาก่อน
4. ไมเคิล จอร์แดน : พนักงานโรงแรม
หนึ่งในนักบาสเกตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ เจ้าของแชมป์ NBA ถึง 6 สมัย แต่อาชีพแรกที่ทำรายได้ให้กับเขากลับไม่ใช่การเล่นบาสเกตบอล แต่คือการเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา
5. ไมเคิล เดลล์ : เด็กล้างจานในร้านอาหารจีน
ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Dell Computer ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กล้างจานมาก่อน ตอนอายุ 12 ปี ซึ่งล้างจานได้ไม่นานเขาก็ได้รับเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยแม่บ้าน แต่สุดท้ายก็ย้ายไปทำที่ร้านอาหารเม็กซิกันแทนเพราะได้ค่าจ้างสูงขึ้น ซึ่งเขาก็เอาเงินที่ได้จากการทำงานมาซื้อคอมพิวเตอร์เก่า ๆ นำมาซ่อมเพื่อขายต่อ จนเก็บเงินได้มากพอที่จะเปิดบริษัทคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้
6. ไมเคิล บลูมเบิร์ก : เฝ้าที่จอดรถ
อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และผู้ก่อตั้ง Bloomberng L.P. บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงินการลงทุนระดับโลก เขานั้นมาจากครอบครัวที่ยากจน จึงต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ด้วยการเป็นพนักงานดูแลที่จอดรถ
7. เจฟฟ์ เบโซส : คนย่างเนื้อในร้านแมคโดนัลด์
ชายผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Amazon.com ก็เคยผ่านการทำงานพาร์ทไทม์ในร้านแมคโดนัลด์ เช่นเดียวกันกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ ซึ่ง “เจฟฟ์ เบโซส” เล่าประสบการณ์ระหว่างทำงานว่า งานหลักของเขาคือการยืนย่างเนื้อในเตาตลอดทั้งวัน และไม่มีโอกาสได้เป็นแคชเชียร์ยืนคิดเงินหน้าร้านเลยสักครั้ง แต่มาถึงวันนี้คงคำนวณทรัพย์สินของเขาไม่หวาดไม่ไหว เพราะเขาติดอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีของโลกไปแล้ว โดยปัจจุบันมีทรัพย์สินราว ๆ 82.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท
8. แจ็ค หม่า : ครูสอนภาษาอังกฤษ
หลังจากที่ “แจ็ค หม่า” เรียนจบก็ได้เริ่มต้นทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ถึง 5 ปี ซึ่งได้เงินเดือนอยู่ที่ราว ๆ 500-600 บาทเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าทักษะภาษาอังกฤษที่เขามี จะเป็นบันไดขั้นสำคัญที่ทำให้เขาสร้างบริษัทอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนอย่าง Alibaba ขึ้นมา จนประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้
9. เจ. เค. โรว์ลิง : ครูสอนภาษาอังกฤษ
ครูสอนภาษาอังกฤษ ในประเทศโปรตุเกส คือ งานแรกของนักเขียน ผู้สร้างตำนานพ่อมดน้อย แฮรี่ พอตเตอร์ ให้โด่งดังและกลายเป็นหนังสือชุดที่ขายดีที่สุดในโลก
10. เควิน พลังค์ : คนตัดหญ้า
ผู้ก่อตั้งบริษัทเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชื่อดังอย่าง Under Armour จุดเริ่มต้นในชีวิตของเขาไม่ได้สบายนัก เพราะต้องทำงานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โดยการรับจ้างตัดหญ้า ซึ่งได้รับค่าตอบแทนประมาณ 15-30 ดอลลาร์สหรัฐต่อสนามเท่านั้น
11. จอร์โจ้ อาร์มานี่ : ผู้ช่วยช่างภาพ
ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก จอร์โจ้ อาร์มานี่ เคยผ่านการเป็นผู้ช่วยช่างภาพมาก่อน ซึ่งนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้แนวคิดเรื่องแฟชั่นต่าง ๆ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่นชื่อดังอย่าง ” Armani”
12. บิล เกตส์ : โปรแกรมเมอร์
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก เจ้าของทรัพย์สินมูลค่ากว่า 85.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ มีความหลงใหลในเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเขาได้เริ่มต้นทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ครั้งแรก กับบริษัท TRW ในระหว่างที่เขายังเป็นแค่นักเรียนชั้นมัธยมปลายเท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม บิล เกตส์ ถึงได้ประสบความสำเร็จแบบนี้
13. โอปราห์ วินฟรีย์ : พนักงานร้านขายของชำ
ก่อนจะมาเป็นพิธีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เราน่าจะทราบกันดีว่าชีวิตของเธอไม่ได้สบายนัก แม้ในตอนเรียนมหาวิทยาลัย ที่รัฐเทนเนสซี จะได้รับทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวนจากมหาวิทยาลัยก็ตาม แต่เธอก็ยังต้องทำงานเป็นพนักงานในร้านขายของชำเพื่อหารายได้เสริม
14. สตีฟ จ็อบส์ : ฝึกงานกับ HP Computer
สตีฟ จ็อบส์ มีโอกาสได้เข้าฝึกงานกับ HP ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปลาย ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ สตีฟ วอซเนียก เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple จนทำให้พวกเขาจับมือกันปฏิวัติวงการเทคโนโลยีของโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Mac, Ipod, Iphone และ IPad
15. จอร์จ ลูคัส : ครูฝึกสอนทหารใช้กล้อง
เขาเริ่มต้นทำงานเป็นผู้ช่วยสอนการใช้กล้อง ให้กับทหารในกองทัพในสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสเข้าไปฝึกงานที่ Warner Brothers จนได้ผลิตภาพยนตร์ชื่อดังออกมามากมาย อาทิ สตาร์ วอร์ส และอินเดียน่า โจนส์ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จะเห็นได้ว่า กว่าที่บุคคลเหล่านี้จะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเงินทองแบบทุกวันนี้ เส้นทางของแต่ละคนไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิดเลย เพราะล้วนแล้วแต่ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันทั้งนั้นกว่าที่ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะสัมฤทธิ์ผล และสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือน ๆ กันก็คือการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อที่เมื่อใดที่โอกาสดี ๆ เข้ามา จะได้ฉวยโอกาสนั้นไว้ได้ทัน และไม่ปล่อยให้ลอยหลุดมือไป
ขอบคุณที่มา money.kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น