16 คำคมสร้างแรงบันดาลใจจาก “เชอรีล แซนด์เบิร์ก” เศรษฐีนีพันล้าน COO ของ Facebook
มิถุนายน 15, 20171091
เชอรีล แซนด์เบิร์ก COO (Chief Operating Officer) แห่งบริษัทเฟซบุ๊ก ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านธุรกิจแล้ว เธอยังเป็นหนึ่งใน”เฟมินิสต์”ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกด้วย
โดยเมื่อปี พ.ศ. 2556 ตั้งแต่เธอได้ตีพิมพ์หนังสือขึ้นแท่นขายดีเรื่อง “Lean In: Women, Work, And The Will To Lead” เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้หญิงที่ฝันอยากทำงานในตำแหน่งบริหาร แซนด์เบิร์กก็ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำและความเท่าเทียมทางเพศไปโดยปริยาย
เธอเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรเพื่อผู้หญิงชื่อ Lean In เช่นเดียวกับชื่อหนังสือ และตั้งแคมเปญ Together Women Can เพื่อสร้างกำลังใจให้แก่ผู้หญิงด้วยการช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาซึ่งกันและกันทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน นอกจากนั้นแล้ว ทาง Forbes ได้รายงาน ว่า เธอยังมีทรัพย์สินในครอบครองเป็นมูลค่าสูงถึง 1.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
และในวันที่ 1 พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2558 การเสียชีวิตกะทันหันของ เดฟ โกลด์เบิร์ก ผู้เป็นสามี ก็ส่งผลให้แซนด์เบิร์กกลายมาเป็นกระบอกเสียงเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้คนที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียในชีวิตด้วย
แซนด์เบิร์กมักแบ่งปันคำแนะนำมากมายนับครั้งไม่ถ้วนต่อสาธารณชน ในด้านการเป็นผู้นำ ความสัมพันธ์คู่รัก รวมไปถึง แนวคิดสตรีนิยม(Feminism) ทั้งในฐานะ COO เฟซบุ๊ก หรือผ่านงานเขียน และการกล่าวคำปราศรัยที่เปี่ยมไปด้วยพลังของเธอ
และในบทความนี้ทางสำเร็จดอทคอมจึงได้ยกเอา 16 คำพูดของ ‘เชอรีล แซนด์เบิร์ก’ มาแบ่งปัน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลให้กับคุณได้อย่างแน่นอน!
“มายาคติที่ว่า ผู้หญิงมักจะไม่ช่วยเหลือผู้หญิงด้วยกันเองนั้นไม่เป็นจริง ความจริงก็คือผู้หญิงสามารถทำสิ่งอัศจรรย์ได้ถ้าพวกเราสนับสนุนซึ่งกันและกัน”
“คุณจะต้องสร้างความสบายใจให้คนอื่นๆ แม้จะอยู่ในฐานะเจ้านายก็ตาม เพราะการเป็นผู้ควบคุมดูแลก็ยังต้องอาศัยความร่วมมือช่วยเหลือจากผู้อื่นด้วย”
“มีผู้ชายตั้งมากมายที่ไม่มีประโยชน์ต่อชีวิตการทำงานของฉันเลย แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างผลเสียร้ายแรงกับฉันแม้แต่นิด”
“โปสเตอร์ในออฟฟิศที่ฉันชื่นชอบมากที่สุดเขียนไว้ว่า “ที่ออฟฟิศของเฟซบุ๊ก ไม่มีเรื่องใดที่เป็นปัญหาของคนอื่น” เพราะงั้นหากคุณเห็นปัญหาใดๆ ก็ตาม คุณเองก็ควรจะช่วยแก้ไขด้วย”
“เราสามารถฟื้นฟูแก้ไขตนเอง และเติบโตขึ้นได้ ด้วยการไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นย้อนกับมาทำร้ายตัวเอง”
“สมองมีระบบภูมิคุ้มกันทางจิตใจ เช่นเดียวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย”
“การรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณต่อสิ่งรอบข้างจะช่วยให้คุณยืดหยุ่นและปรับตัวต่อความยากลำบากได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ที่ทำได้ก็มักจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีกว่าคนทั่วไป”
“ช่วงชีวิตที่ราบรื่นน่ะ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอยู่แล้ว แต่ช่วงชีวิตที่ยากลำบากต่างหากล่ะ ที่จะท้าทายคุณ ตัวตนของคุณไม่ได้ถูกประกอบสร้างจากความสำเร็จเท่านั้น หากยังรวมถึงวิธีการเอาตัวรอดไว้ด้วย”
“บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ก็ไม่ได้เป็นผลจากการกระทำของเรา”
“ถ้าคุณมองดูเหล่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จล่ะก็ คุณก็จะเห็นว่ามีผู้หญิงคนอื่นๆ ที่คอยผลักดันสนับสนุนและทำให้พวกเธอมาถึงจุดนั้นได้”
“การกล่าวสุนทรพจน์ที่แย่ มีหนทางแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือ การกล่าวให้ดีขึ้น ส่วนหนทางที่ดีที่สุดในการเยียวยาความเกลียดชังนั้น ก็คือความอดทน”
“การเชื่อมโยงตัวเองกับผู้อื่นจะทำให้เราพบกับความเป็นมนุษย์ของตนเอง ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตและความสามารถที่จะรัก จงอยู่เคียงข้างครอบครัวและเพื่อนพ้องของคุณจริงๆ ไม่ใช่แค่ส่งข้อความไปพร้อมอีโมจิรูปหัวใจนะ”
“พวกเราต้องช่วยกันแก้ไขอคติที่ผู้หญิงเผชิญอยู่ คุณไม่ควรรู้สึกว่าต้องช่วยเหลือผู้หญิงเพราะเธอคือผู้หญิง แต่ควรช่วยเพราะเชื่อมั่นในความคิดและความสามารถของเธอ”
“คุณไม่ได้เกิดมาพร้อมกับทักษะการยืดหยุ่นและปรับตัวอย่างจำกัด เหมือนกับมวลกล้ามเนื้อนั่นแหละ คุณสามารถเพิ่มพูนหรือลดปริมาณลงได้ตามต้องการ ในระหว่างนั้นคุณก็จะได้ค้นหาตัวตนที่แท้จริงไปด้วย และไม่แน่ว่า คุณอาจจะกลายเป็นตัวเองในแบบที่ชอบที่สุดก็ได้”
“ถ้ามีคนชวนขึ้นยานอวกาศล่ะก็ อย่าเสียเวลาไปกับการถามว่าต้องนั่งตรงไหน”
“จงสร้างความยืดหยุ่นให้ตนเอง เมื่อต้องพบกับความโศกเศร้าหรือผิดหวัง จงรู้ว่าคุณมีความสามารถพอจะก้าวผ่านมันไปได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม คนเรามักจะอ่อนแอกว่าที่ตัวเองคิด แต่ในขณะเดียวกัน ก็เข้มแข็งกว่าที่ตนเองจินตนาการไว้เช่นกัน”
Source : Business Insider
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น