รายละเอียดหนัง Invictus จิตวิญญาณผู้ไม่แพ้ เนลสัน แมนเดลา
เรื่องย่อ : หลายคนคงสงสัยว่าประเทศ แอฟริกาใต้รวมกันเป็นประเทศได้อย่างไร จากประวัติศาสตร์การแบ่งแยกสีผิวและการกดขี่ชนชั้นผิวสี ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจาก เนลสัน แมนเดล่า กลายเป็นประธานาธิบดีและเริ่มการสร้างประเทศใหม่ สิ่งที่น่าคิดคือจิตใจและความเป็นหนึ่งของประเทศจะเกิดขึ้นได้อย่างไรจาก ประเทศที่แทบจะมีสงครามกลางเมืองและการเกลียดชังแผ่อยู่ทั่วประเทศ… Invictus เป็นเรื่องราวตอนที่แมนเดลาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ยุคนั้นประเทศอื่นรอบๆ แอฟริกาใต้ได้รับเอกราชไปก่อนแอฟริกาใต้แล้ว และเกิดจลาจลกลียุค ฆาตกรรมหมู่อุตลุดกันไปหมด ผู้นำผิวดำหลายคนยึดอำนาจเป็นเผด็จการ โดนแย่งชิงอำนาจและถูกฆ่าตายในตำแหน่งก็มี ลองหา “สงครามผิว” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาอ่านประกอบให้เห็นภาพในยุคนั้นมากยิ่งขึ้น ชนผิวขาวในแอฟริกาใต้นั้น แต่เดิมมาเป็นชาวยุโรปที่อพยพมาบุกเบิกอาณานิคมใหม่ ทั้งคนอังกฤษ ดัตช์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ซึ่งเข้ามาตั้งอาณานิคมตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 (ปี 1800 กว่า) ชาวยุโรปที่มาตั้งรกรากในแอฟริกาใต้นี้เรียกตัวเองว่าพวกบัวร์ (Boer) ต่อมาภายหลังจึงเรียกตัวเองว่าชาวอัฟริคานส์ (Afrikaans) มีภาษาเป็นของตัวเองเรียกว่าภาษาอัฟริคานส์ ซึ่งกลายเป็นภาษาราชการของแอฟริกาใต้ (ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) ชนเหล่านี้อยู่แอฟริกาใต้นานหลายชั่วอายุคนจนไม่คิดว่าตัวเองเป็นชาวยุโรปอีกแล้ว แม้จะมีจำนวนไม่มาก เพียงประมาณไม่ถึง 10% ของประชากรทั้งหมด แต่ก็เป็นคนควบคุมและบริหารประเทศตั้งแต่ยุคอาณานิคม แม้เมื่อทางยุโรปปลดปล่อยให้เป็นเอกราชแล้ว ชนผิวขาวในแอฟริกาใต้ก็ยังครองอำนาจอย่างเหนียวแน่น และกดขี่เหยียดผิวชนพื้นเมืองอย่างรุนแรงกว่าที่อื่นๆ จนมีชื่อเรียกการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้เป็นการเฉพาะว่า อาพาร์ไทด์ (Apartheid) มีขบวนการต่อสู้เพื่อปลดแอกชนผิวดำเป็นขบวนการนานาชาติ ซึ่งแน่นอนก็มีการตอบโต้กวาดล้างจากฝ่ายรัฐบาลผิวขาวด้วย แม้ตัวแมนเดลาเองก็ถูกรัฐบาลผิวขาวจับตัวขังคุกชนิดว่าขังลืมตลอดชีวิต ครอบครัวบ้านแตกสาแหรกขาด ชีวิตครอบครัวของแมนเดลาต้องเรียกว่าย่อยยับ ทั้งภรรยาและลูกสาวก็ถูกคุกคามข่มขู่ เขาถูกขังอยู่เป็นเวลาถึง 27 ปีเต็มกว่าที่รัฐบาลผิวขาวจะเปลี่ยนนโยบายเป็นการประนีประนอม ทั้งจากการกดดันของนานาชาติ และการต่อสู้อย่างรุนแรงภายในประเทศ หลังจากการเหยียดผิวในทวีปแอฟริกายุติลง (และเกิดจลาจลฆ่าล้างแค้นกันมั่วไปหมด) แมนเดลาไม่ต้องการให้แอฟริกาใต้ตกไปสู่สงครามกลางเมืองเหมือนอย่างประเทศ อื่นๆ ขั้วการเมืองอื่นนอกเหนือจากแมนเดลาเช่นในพรรคเอเอ็นซีเอง (ปีกที่สนับสนุนคริส ฮานี) หรือพรรคซูลู ล้วนแต่เป็นพวกหัวรุนแรง ต้องการแก้แค้นคนผิวขาวที่กดขี่ข่มเหงชนผิวดำมานาน Invictus หนังที่เล่าส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่เนลสัน แมนเดล่าใช้ในการสร้างประเทศขึ้นใหม่ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ด้วยเรื่องง่าย ๆ (แต่เต็มไปด้วยภาระที่หนักอึ้ง) อย่างกีฬารักบี้ ที่ประเทศแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ World Cup ในปี 1995 เรื่อง ราวของหนังเริ่มตั้งแต่วันที่เนลสัน แมนเดล่า (มอร์แกน ฟรีแมน) ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำพร้อมกับภาวะการเมืองและภาวะขัดแย้งที่เข้มข้นแบบ จัด ๆ อันจะเห็นได้ชัดจากวันแรกที่แมนเดล่าก้าวเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยที่บรรดาเจ้าหน้าที่ผิวขาวทั้งหลายเบือนหน้าและเตรียมแพ็คกระเป๋าลาออก แต่สิ่งที่แมนเดล่าทำกลับตรงกันข้ามกับที่ทุก คนคิด เขาเลือกที่จะปลุกให้ทุกคนเห็นว่าประเทศใหม่ของพวกเขานั้นไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่าย หนึ่ง สีใดสีหนึ่ง แต่อนาคตของประเทศมาจากความร่วมมือของทุกคน ซึ่งตลอดเรื่องนี้ แมนเดาล่าก็จะย้ำจุดนี้อยู่เสมอ ดูหนังตัวอย่าง ปมสำคัญของหนังเกิดขึ้นเมื่อทีมรักบี้ของชาติ ที่เรียกนิคเนมว่า”สปริงบอร์ก” นั้นเหลวเป๋วทั้งผลงาน และทัศนคติของคนในชาติที่เห็นว่ามันคือตัวแทนของการแบ่งแยกผิวสีจนถึงขั้น ว่าจะให้ทีมรักบี้ยกเลิกชื่อและการใช้สีเขียวทองอันเป็นสีของประเทศไป แต่แมนเดล่ากลับให้ความสำคัญของจุดเล็ก ๆ จุดนี้และพยายามที่จะรักษา พร้อมกับชูมันเป็นกลไกสำคัญในการรวมประเทศเป็นหนึ่งภายในหนึ่งปีก่อนที่จะ ถึง World Cup ตลอดเรื่องของ Invictus จะมีคำพูดหรือคำปราศรัยของแมนเดล่าที่คมกริบและกระแทกจิตใจของผู้ชมอยู่ตลอด เช่นการที่เขาให้หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดรู้จักให้อภัยคนผิวขาวและยอมทำงานร่วม กัน โดยบอกว่า “การให้อภัยต้องเริ่มจากที่นี่” หรือฉากการอธิบายให้ผู้คนเห็นด้วยกับการให้ทีมรักบี้ยังใช้ชื่อ ‘สปริงบอร์ก’ ต่อไป เพราะมันคือสัญลักษณ์ของ “พวกเขา” และไม่มีค่าอันใดที่จะเอามันไปจาก “พวกเขา” เพราะมันจะรังแต่ทำให้เกิดความแตกแยกเท่านั้น (พวกเขาในที่นี้หมายถึงชนผิวขาวที่แต่ก่อนเป็นชนชั้นที่มีสิทธิมากกว่าชนผิว สี) หนังไม่ได้พยายามบอกกับเราว่าทีมชาติแอฟริกา ใต้เป็นแชมป์โลกได้ยังไง เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรเลย แต่สิ่งที่สำคัญซึ่งหนังพยายามบอกเราอยู่เสมอคือความสำคัญและผลกระทบที่เกิด ขึ้นจากการที่ทีมรักบี้ของพวกเขาพยายามคว้าชัยและก้าวไปสู่แชมป์โลก ซึ่งชัยชนะของทีมมันไปไกลกว่าชัยชนะในเกมรักบี้ แต่มันเหมือนชัยชนะของประเทศที่ก้าวข้ามอดีตและไปสู่ประเทศใหม่อีกครั้ง แมนเดล่าบอกกับฟรองซัว กัปตันทีมสั้น ๆ ว่า “ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เธอทำให้กับประเทศนี้” ซึ่งวินาทีนั้น สิ่งที่ทีมรักบี้ทำให้กับประเทศไม่ใช่ถ้วยสีทองที่ชูขึ้น แต่คือสภาพที่คนทั้งประเทศลุกขึ้นมาเป็นหนึ่ง และหมดเวลาของการแบ่งแยก คนไม่ว่าจะผิวสีไหนก็ร่วมยินดีและกอดคอ จับมือกันหมดภายใต้ธงชาติเดียวกัน Invictus ถือได้ว่าเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม หากใครสนใจจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของ เนลสัน แมนเดลา สามารถหาอ่านหนังสือ Mandela’s Way จะมีโอกาสได้ไปศึกษา ถึงสภาวะแวดล้อม เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกาในยุคสมัยตั้งแต่แมนเดลายังไม่เกิด จนกระทั่งเกิดมา จนถึงช่วงการต่อสู้ของแมนเดลา และการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จากความประทับใจก็กลายเป็นความนิยมยกย่องและเคารพนับถือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น