แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การบริหารต้นทุน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การบริหารต้นทุน แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

การบริหารต้นทุน

คำถาม

การบริหารต้นทุนมีวิธีการหรือแนวทางในการทำงานอย่างไร ที่จะมุ่งเน้นให้องค์กรมีคุณภาพในการบริหารมากที่สุด?

- ต้นทุนคืออะไร nbsp มีสิ่งใดบ้างที่แสดงถึงการเป็นต้นทุน - nbsp ต้นทุนในการที่จะบริหารมีเรื่องเกี่ยวกับใดบ้าง -หลักในการบริหารต้นทุนที่ดี nbsp ต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง -วิธีการหรือแนวทางในการบริหารต้นทุนต้องมีวิธการอย่างไร

คำตอบ

ต้นทุน ในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง ค่าตอบแทนปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการ ผลิตของหน่วยผลิต ในทางบัญชี หมายถึงค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อให้ได้สินค้า หรือผลของกิจกรรมทางธุรกิจ  
 
      ประเภทต้นทุน แบ่งเป็น 4 ประเภท  
1 ต้นทุนชัดเจนกับต้นทุนแฝง Exploit Cost Implicit Cost -   ต้นทุนชัดเจน หมายถึง ต้นทุนที่จ่ายเป็นตัวเงิน มีหรือไม่มีหลักฐานทางบัญชีก็ได้ -   ต้นทุนแฝง หมายถึง ต้นทุนที่ไม่มีการจ่ายจริง  
2 ต้นทุนทางเศรษฐกิจกับต้นทุนทางบัญชี -   ต้นทุนทางเศรษฐกิจ หมายถึง ต้นทุนที่จ่ายเป็นตัวเงินและไม่จ่ายเป็นตัวเงิน หรือ หมายถึง ต้นทุนชัดเจนและแฝงรวมกัน หรือคิดกำไรปกติที่ผู้ประกอบการได้รับเข้าไปด้วย -   ต้นทุนทางบัญชี หมายถึง ต้นทุนชัดเจน  
3 ต้นทุนค่าเสียโอกาส -   ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ ประโยชน์ หรือโอกาสที่จะได้รับเมื่อใช้ทรัพยากรชนิดเดียวกันไปผลิตสินค้า บริการอื่น  
4 ต้นทุนเอกชน และต้นทุนสังคม -   ต้นทุนเอกชน หมายถึง ต้นทุนที่หน่วยผลิตต้องรับผิดชอบโดยตรง เช่น ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย ค่าวัตถุดิบ ฯลฯ -     ต้นทุนสังคม หมายถึง ต้นทุนเอกชนรวมกับผลกระทบภายนอก  

การคำนวณต้นทุนสินค้า ต้นทุนสินค้า คือ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อให้ได้มา
ซึ่งการผลิตสินค้า ประกอบด้วย  
1   ค่าวัตถุดิบ   ได้แก่ ค่าวัตถุดิบทุกประเภทที่นำมาใช้ในการแปรสภาพเพื่อผลิตเป็นสินค้า  
2   ค่าแรงงาน   ได้แก่ ค่าจ้างแรงงาน ค่าจ้างรับเหมาช่วง ซึ่งเป็นแรงงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป  
3   ค่าใช้จ่ายในการผลิต   ได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรงนอกเหนือจากค่าวัตถุดิบ และค่าแรงงาน ได้แก่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ค่าประปา ค่าเช่าโรงงาน เงินเดือนผู้บริหารฝ่ายผลิต       ค่ากล่องบรรจุ ค่าวัสดุสิ้นเปลืองในการผลิต ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรในโรงงาน ค่าซ่อมบำรุงโรงงาน ค่าเบี้ยประกันภัยโรงงาน เป็นต้น
       ดังนั้น ต้นทุนในการผลิตสินค้าต่อหน่วยคำนวณได้ดังนี้   ต้นทุนผลิตสินค้าต่อหน่วย     ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต     จำนวนสินค้าที่ผลิตได้  
นอกจากค่าใช้จ่ายในการผลิตดังกล่าว ยังมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง เป็นการจ่ายไปเพื่อก่อให้เกิดรายได้ เรียกว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน  
     ซึ่งประกอบด้วย     1   ค่าใช้จ่ายทางการตลาด   ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขาย เช่น ค่าโฆษณา ค่าสินค้าตัวอย่าง ค่าขนส่ง ค่าออกร้าน ค่าคอมมิชชั่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เป็นต้น   2   ค่าใช้จ่ายในการบริหาร   ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในสำนักงาน เช่น เงินเดือนผู้บริหาร     ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาในสำนักงาน ค่าเครื่องเขียน ค่าเช่าสำนักงาน ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินในสำนักงาน ดอกเบี้ยจ่าย ค่าภาษี เป็นต้น                                

      ดังนั้น ต้นทุนสินค้าต่อหน่วยคำนวณได้ดังนี้                       ต้นทุนสินค้าต่อหน่วย       ต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อหน่วยการลดต้นทุนสินค้า                       การบริหารต้นทุนคือหัวใจสำคัญในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีการแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการมีจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศอันเนื่องมาจากนโยบายเปิดเสรีทางการค้า FTA   และภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ตลอดจนสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ เช่น จากประเทศจีนและเวียดนาม เข้ามาแข่งขันในตลาด ทำให้ส่วนต่างของราคาขายและต้นทุนการผลิต ที่เรียกว่า “ กำไรขั้นต้น ” Gross profit หดแคบเข้ามามากจนแทบไม่เหลือเป็นกำไรสุทธิให้กับกลุ่มผู้ผลิต                       จุดเริ่มต้นของการลดต้นทุนก็คือ   การหันกลับมาพิจารณาธุรกิจของตนเองและแยกแยะหา     ต้นทุนจริงของสินค้าและบริการแต่ละชนิดที่มีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ผลิตสินค้าหลากหลาย คือมีสินค้าและบริการหลายประเภทที่ต้องใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตร่วมกัน เพราะลำพังเพียงผลประกอบการโดยรวม   ทั้งปี ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและแม่นยำได้                      

วิธีการบริหารต้นทุนของสินค้าและบริการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยต้นทุนที่ต่ำสุด มีหลากหลายวิธี เช่น การปรับสูตรหรือส่วนผสมในการผลิต การหาแหล่งวัตถุดิบราคาถูก การลดการสูญเสียในการผลิต การปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต การตัดต้นทุนส่วนที่ไม่จำเป็นออก                      
ในส่วนของพนักงานผลิตและพนักงานให้บริการ ให้มีการฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนมากขึ้น หรือตัดงานบางส่วนให้กับกลุ่มผู้ผลิตอื่นที่ผลิตได้ต้นทุนที่ต่ำกว่าและสามารถส่งของได้ตรงตามกำหนดและได้คุณภาพตรงตามต้องการ                                            

การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สั้น   กระชับ   และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม   บางครั้งต้องลงทุนในอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ที่จะช่วยประหยัดกำลังคนและลดการสูญเสียจากการผลิตได้                                             สรุป   การลดต้นทุนคือ การเพิ่มผลกำไรโดยไม่กระทบถึงผู้บริโภคภายนอก เป็นกระบวนการที่จัดการกันเองภายในองค์กร โดยอาศัยความร่วมมือจากบุคคลทุกฝ่ายและทุกคนในองค์กร ตั้งแต่บนสุด จนถึงล่างสุด การลดต้นทุนมิใช่การลดวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุน แต่เป็นการใช้สิ่งที่มีอยู่นั้นให้คุ้มค่าที่สุด                          

วิธีการลดต้นทุนสินค้า   สามารถทำได้ 3 วิธีการใหญ่ คือ 1   การควบคุมต้นทุนสินค้าให้อยู่ในเป้าหมาย  
การตรวจสอบต้นทุนปัจจุบัน หมายถึง     การตรวจการใช้ทรัพยากรของกลุ่ม ว่าถูกใช้ไปอย่างเหมาะสม ประหยัด และคุ้มค่าหรือไม่ เช่น บุคลากรมีมากเกินความจำเป็นหรือไม่ ค่าวัตถุดิบในการผลิต ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าพลังงานเชื้อเพลิงต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และค่าใช้จ่ายทางการตลาด เมื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว เราต้องตั้งเป้าหมายต้นทุนที่ต้องการขึ้น และควบคุมให้อยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ การควบคุมต้นทุนเป็นการกำจัดความสิ้นเปลืองต่าง ๆ ในกระบวนการออกไป แล้วก็กำหนดเป็นต้นทุนมาตรฐานขึ้น   2   การปรับลดต้นทุนสินค้า   คือ การกำหนดเป้าหมายต้นทุนสินค้าโดยการนำวิธีการผลิตแบบใหม่ เช่น เครื่องจักรที่ทันสมัย วัสดุอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง หรือการออกแบบที่มีนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยลดต้นทุนสินค้า ดังนั้น การปรับลดต้นทุนสินค้า คือการประสานงานของหน่วยงานออกแบบ หน่วยงานผลิต หน่วยงานเทคนิค เป็นจุดศูนย์กลางทำกิจกรรมในหน้าที่ของตนเองอย่างต่อเนื่อง                      

จุดหลักของการปรับลดต้นทุนสินค้า คือ กำหนดค่าเป้าหมายต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการดำเนิน   กิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าต้นทุนสินค้ามาตรฐาน ส่วนต่างที่ได้จากต้นทุนสินค้าปัจจุบันและต้นทุนสินค้าหลังปรับปรุง คือ ผลลัพธ์ของการปรับปรุง   3   ปรับลดต้นทุนสินค้าอย่างต่อเนื่อง   ในการดำเนินการลดเป้าหมายต้นทุนสินค้าที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป้าหมายต้นทุนสินค้า ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าผลลัพธ์ของต้นทุนที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านั้น เช่น ในรอบการผลิตที่ผ่านมา 6 เดือน 1 ปี และทุกครั้งจะต้องนำต้นทุนสินค้ามาตรฐานครั้งก่อนมาตั้งค่าครั้งใหม่เพื่อให้ได้ต้นทุนมาตรฐานที่ต่ำลง โดยกระบวนการลดต้นทุนยังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น     การปรับลดต้นทุนสินค้าอย่างต่อเนื่อง   โดยการปรับปรุงต้นทุนมาตรฐานให้ต่ำลงเรื่อย ๆ

การบริหารต้นทุน

"การลดต้นทุน" คือการพยายามลดค่าใช้จ่าย (ทั้งที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ควรลดค่าใช้จ่ายที่ยังไม่จำเป็นต้องลด ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรที่จะไปลดโดยเด็ดขาด) โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้เร็วที่สุดในรูปของตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ลดลงทันทีทันใด (ถึงแม้การลดค่าใช้จ่ายอาจจะต้องส่งผลเสียกับพนักงาน และส่งผลเสียกับคุณภาพของสินค้า-บริการที่ลูกค้าจะได้รับก็ต้องยอม)

"การบริหารต้นทุน" คือ การบริหารองค์กรทั้งในเรื่องของสินทรัพย์ (เครื่องไม้เครื่องมือ อาคาร ฯลฯ)และทรัพย์สิน(บุคลากร) ให้มีศักยภาพสูงที่สุดในการปฏิบัติงาน โดยใช้ต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่นและผันแปรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละช่วง เวลาที่แตกต่างกัน

ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงที่ธุรกิจขยายตัว จำเป็นต้องเพิ่มกำลังคน องค์กรที่ใช้วิธีบริหารแบบลดต้นทุน ก็คือจะรีบทำการเพิ่มคน(โดยเป็นการเพิ่มต้นทุนไปอย่างอัตโนมัติ) และเมื่อถึงเวลาขาลงของธุรกิจ ก็จะรีบลดคน ลดต้นทุนทันทีทันใดเช่นเดียวกัน เท่านั้นยังไม่พอ ยังรวมถึงการลดต้นทุนโดยการลดคุณภาพของสินค้า ลดคุณภาพของการบริการ ลดค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ระมัดระวังเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขี้นกับทีมงานและคนในองค์กร ผลที่ได้รับมักจะกลายเป็นการลดลูกค้าทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ในขณะที่องค์กรที่ใช้การบริหารแบบ "บริหารต้นทุน" เมื่อถึงเวลาที่ธุรกิจขยายตัว จะไม่รีบร้อนเพิ่มคน แต่ใช้หลายทางเลือก เช่น ใช้พันธมิตรมาเป็นคู่คิด คู่ปฏิบัติในการร่วมกันขยายธุรกิจ ขยายโอกาส และร่วมกันรับความเสี่ยง หรืออีกทางเลือกเช่น ดึงศักยภาพคนในองค์กร จากที่เคยทำได้แค่หน้าที่เดียว หล่อหลอมฝึกฝนในเวลาที่กระชับไม่ยืดยาด เพื่อให้ขยายขอบเขตของทักษะและบทบาทที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจ

และเมื่อถึงเวลาขาลงของธุรกิจ การใช้พันธมิตรมาช่วยในช่วงแรกก็จะลดบทบาทลงทั้งสองฝ่ายโดยไม่จำเป็นต้องลดต้นทุน แต่ได้บริหารต้นทุนและได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างเรากับพันธิมิตร ยิ่งในกรณีทีสามารถฝึกฝน หล่อหลอมทีมงานแบบกระชับให้มีหลายทักษะโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มคนใหม่ แต่ใช้คนในให้เกิดศักยภาพสูงสุด เมื่อถึงช่วงขาลง ก็จะกลายเป็นองค์กรที่มีทีมงานจำนวนเท่าเดิม แต่มีศักยภาพมากกว่าเดิม

ในอีกมิติหนึ่ง องค์กรที่รู้จักบริหารต้นทุน จะใช้สินทรัพย์ทุกอย่างอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า มีเหตุผล ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ตามกระแส แต่จะทุ่มทุนและทุ่มเทไปกับทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดขององค์กรก็คือคน และถ้ามีกึ๋นในการบริหารคน สิ่งที่จะตามมาก็คือ คนขององค์กรจะช่วยบริหารต้นทุนให้กับองค์กรโดยไม่ต้องมาขอร้องให้ประหยัดแบบจำใจประหยัดสลับกับล้างผลาญค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจะจ่ายอย่างที่หลายๆ องค์กรเป็นกันอยู่

เพราะฉะนั้น ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของ “การลดต้นทุน” กับ “การบริหารต้นทุน” อยู่ที่ ผู้นำขององค์กร และผู้บริหารทุกระดับในแต่ละหน่วยงานว่า มีวิธีคิด วิธีมองต้นทุนอย่างไร? ถ้ามองว่า สินทรัพย์(สิ่งไม่มีชีวิต) และ ทรัพย์สิน(คนทุกระดับในองค์กร) คือต้นทุน ก็ถือว่าผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว เพราะเมื่อถึงเวลาที่จะเพิ่มก็จะเพิ่มทั้งสองอย่าง และถึงเวลาที่จะลดก็ลดทั้งสองอย่าง สุดท้ายก็จะไม่มีเหลือต้นทุนที่มีศักยภาพให้องค์กรบริหาร อีกต่อไป

Credit : businessthai.co.th / TMB Efficiency