ถ้าดูจาก infographic นี้ จะเห็นว่า จุดเริ่มต้นของ Start up ก็คือ การหา สินค้าและบริการ ใหม่ๆ ที่ตลาดยังขาดแคล แต่มีความต้องการ ซึ่งถ้าคุณหาเจอ มองออก คุณก็รวยได้ครับ เมื่อคุณหาเจอแล้ว คุณก็จะต้องทำตัวอย่างออกมาลองให้คนทดลองใช้ดูว่า โอเคไหม ถ้าโอเค ต่อไปคือ คุณจะต้องหา ผู้ร่วมก่อตั้ง Co-Founder ซึ่งก็คือคนที่จะมาช่วยคุณให้ฝันเป็นจริง เช่นคุณขาดเรื่องอะไร คุณก็หาคนที่เก่งเรื่องที่คุณขาดมาช่วยกัน โดยคุณอาจจะต้องแบ่งหุ้นให้ Co-Founder ต่อจากที่คุณได้ ผู้ร่วมก่อนตั้งแล้ว ต่อไปคุณก็จะต้องหา ผู้ลงทุน Investor ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขอเตือนว่า ต้องหาดีๆ มองดีๆ คนมีเงินนั้นเยอะมากที่พร้อมที่จะลงทุนกับคุณ แต่สิ่งที่เขาต้องการจากการลงทุนของเขานั่นสิ ที่คุณจะต้องตรึกตรองดีๆ เช็คประวัติ นิสัยใจคอ แนวทางการทำธุรกิจของเขา วิธีทำงานของเขาด้วย หัวหน้าเขาเป็นอย่างไร ลูกน้องเขาเป็นอย่างไร ไม่ใช่เห็นว่าเขามีเงิน เขาสนใจและพร้อมที่ให้เงินคุณ คุณก็รีบฮุบทันที เพราะสิ่งที่คุณจะต้องแบ่งให้เขาคือหุ้นในธุรกิจของคุณ คุณอาจจะดีใจตอนแรก และมาเสียใจตอนหลังก็ได้ เพราะ ต่อไปคุณจะทำอะไรไม่สะดวกเหมือนตอนคุณเป็นเจ้าของ 100% อีกต่อไป แต่ข้อดีก็คือ คุณจะได้ทุนมาสร้างฝัน แล้วถ้าเจอ investor ดีๆ เขาจะดันให้คุณถึงจุดหมายได้ เพราะเขาก็ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนเช่นกัน
เมื่อคุณได้องค์ประกอบครบแล้ว ต่อมาก็ลุยสร้างสินค้าและบริการตามที่คุณวาดฝันไว้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็พยายามขายสินค้าออกไปให้กลุ่มเป้าหมายของคุณ เมื่อตลาดตอบรับดี ก็นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น ถ้าเข้าได้เป้าหมายของทุกคนก็จะสำเร็จ นั่นคือ ทำเงินโดยการขายหุ้นในตลาดหุ้น ทุกคนจะ win-win ครับ
ซึ่งการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นนั้นยาก ก็จะมีบรรดา Start up มองแค่ทำเพื่อขายบริษัทต่อให้คู่แข่งหรือเจ้าอื่นที่สนใจ แล้วเขาก็จะมากำหนด Exit Strategy ว่า เขาจะถอนตัวกันอย่างไร ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก ถ้าแผนการดีก็จะไม่เจ็บปวดกัน ถ้าแผนการไม่ดี หรือ ไม่มี ก็จะเจ็บปวดกันไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น