อธิบดีกรมสรรพากร" เตรียมหารือผู้ประกอบการค้าทองคำ เพื่อดึงเข้ามาอยู่ในระบบภาษีผู้ประกอบการรายใหญ่
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรเตรียมหารือผู้ประกอบการค้าทองคำ ทั้งร้านค้าปลีกและขายส่ง เพื่อดึงเข้ามาอยู่ในระบบภาษีผู้ประกอบการรายใหญ่ (LTO) เพื่อควบคุมดูแลผ่านระบบเดียวกันกับธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันการค้าทองคำของร้านค้าส่งและค้าปลีกไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากเนื้อทองคำ แต่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากค่ากำเหน็จและการเสียภาษีปัจจุบันเป็นการประเมินต้นทุนคร่าว ๆ
นายประสงค์ กล่าวว่า วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ กรมสรรพากรพร้อมไปชี้แจงผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ โดยจะมีทั้งผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้ผลิต ที่ผ่านมาอาจแจ้งภาษีถูกต้องบ้าง ไม่ถูกบ้าง และเคยชินแบบแนวทางเดิม ๆ จึงต้องปรับเข้าสู่ระบบอย่างเป็นมาตรฐาน ดังนั้น ปี 2559 จึงเป็นช่วงสนับสนุนให้จัดทำระบบบัญชีอย่างถูกต้อง จากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ผู้ค้าทองคำจะเข้าสู่ระบบเป็นมาตรฐานมากขึ้น จากปัจจุบันมีมูลค่าซื้อขายกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับมาตรการนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์หักลดหย่อนภาษี ตั้งแต่วันที่ 9-17 เมษายน คาดว่าจะมียอดการใช้จ่าย 10,000 ล้านบาท ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะมีเงินทุนหมุนเวียน 24,000 ล้านบาท จึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเที่ยวทั่วไทยถึง 22 ล้านคน โดยยอมรับว่ามาตรการหักลดหย่อนภาษีสงกรานต์ปีนี้มีผลทำให้ร้านค้าเตรียมบริการลูกค้าอย่างคึกคักและบางแห่งต้องไปจดทะเบียนภาษีมูลเพิ่ม เพื่อเป็นผู้ประกอบการในระบบภาษี เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 400,000 ราย จึงคาดว่าร้านค้าผู้มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท จะเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบัน
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/694066
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น